‘โฆษกประชาชาติ’ ระบุ กทม.ปรับ ‘นายกฯ’ โชว์และข่มขู่ประชาชน
เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ ระบุว่า การที่ กทม.นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปรับนายกรัฐมนตรีถึงทำเนียบรัฐบาล กรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่ใส่หน้ากากอนามัยระหว่างการประชุมที่ปรึกษาเกี่ยวกับการจัดหาและการกระจายวัคซีน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ณ ห้องประชุมสีเขียว ทำเนียบรัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรีกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากฝ่าฝืน (1) ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหะสถาน หรือ สถานที่พักและ (2) กระทำผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
นายสุพจน์กล่าวว่า แต่การกระทำของ กทม.ไม่ถูกต้อง เพราะพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 51 กำหนดไว้ว่า การนำตัว ‘ผู้กระทำผิด’ มาลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ‘พนักงานสอบสวน’ ต้องทำการสอบสวนนายกรัฐมนตรีและส่งให้ ‘พนักงานอัยการ’ เพื่อส่งฟ้องศาลและศาลจะเป็นผู้มีคำสั่งปรับนายกรัฐมนตรี ส่วนจะสั่งปรับจำนวนเท่าใดก็จะเป็นไปตามดุลพิพิจของศาล
อ่านข่าว : ผู้ว่าฯกทม.-ตำรวจ มาปรับถึงทำเนียบ นายกฯไม่ใส่แมสก์ 6,000 บาท รายแรกของ กทม.
“คดีเกี่ยวกับ ‘การไม่ใส่หน้ากากอนามัย’ มีปรากฏมาก่อนแล้ว เช่น ศาลจังหวัดกันทรลักษ์และศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ได้พิพากษาให้ปรับจำเลยเพราะมีความผิดจริง แต่ปรับเป็นเงินเพียง 500 บาทเท่านั้น
“การกระทำของ กทม.เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายและจะทำให้ประชาชนสับสน อีกทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์และสร้างความเดือดร้อนเพิ่มเติมให้กับประชาชนที่มีมากอยู่แล้ว กทม. กระทำการผิดกฎหมายและผิดมาตรา 157 เพราะใช้ดุลพินิจแทนศาล” นายสุพจน์กล่าว