“ยากจน” คือ “กำไร” ประไพศรี ประเสริฐแก้ว สู้แล้วรวย 100 ล้าน!

“ทุกวันนี้ คิดว่าเราโชคดีที่เกิดมาจน เพราะทุกอย่างที่เราได้มาคือกำไร เราไม่ต้องสูญเสียอะไรเหมือนคนอื่น ทำมากก็กำไรมากเท่านั้นเอง”

คำกล่าวของ น้ำตาล-ประไพศรี ประเสริฐแก้ว นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของหนังสือขายดีอย่าง “พ่อจนสอนให้รวย 4 ปี 4 ร้อยล้าน” ดูจะเป็นถ้อยคำที่สะท้อนภาพความคิดและความสู้ชีวิตของลูกสาวชาวนาที่กลายมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านจากความพยายามของตัวเองได้ดีที่สุด

นั่นเป็นผลมาจากคำสอนของพ่อ ที่สอนประไพศรีไว้ว่า การเป็นลูกชาวนา ต้นทุนชีวิตต่ำมาก อยากได้อะไรก็ต้องทำเอง แม้ไม่ต้องเรียนเก่งแต่ต้องให้ความสำคัญกับการเรียน จะได้รู้ว่าชอบอะไร ที่สำคัญต้องเพียรพยายาม แล้วจะได้สิ่งที่ฝันนั้นเอง ทำให้ที่ผ่านมาไม่ว่าจะลงมือทำอะไร “ต้องเต็มที่ และดีที่สุด”

จากคำสอนนี้ แม้ในช่วงวัยเด็ก น้ำตาลอาจไม่มีเงินเรียนอย่างคนอื่นๆ แต่ก็มุมานะเข้าเรียนการศึกษานอกโรงเรียนจนจบ ม.6 ก่อนจะศึกษาต่อด้านนิเทศศาสตร์ ม.พายัพ พร้อมกับการทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ทั้งงานดีเจ พิธีกร จนกระทั่งเรียนจบได้ทำงานประจำอยู่ 3 ปี เธอก็ยังไม่ทิ้งโอกาสเก็บหอมรอมริบจนมีเงินมาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

Advertisement

“เมื่อเราอยากมีเงินแต่ไม่รวย ต้องเริ่มจากทำงานอย่างเต็มที่ เวลาทำงานให้ใครจะคิดเสมอว่าต้องดีที่สุด จ้างหมื่นจะทำให้แสน เรียนรู้งานให้ครบทุกด้าน ซึ่งโชคดีที่งานที่เราทำมีรายรับเข้ามาสองทาง ก็ค่อยๆ เก็บเงินจนมีเงินเปิดบริษัทของตัวเอง”

คำถามคือทำเช่นไรจะรวยบ้าง

คำตอบคือ ต้องมีวินัยทางการเงิน ซึ่งประไพศรีขยายความต่อว่า หากอยากจะรวยต้องยึดหลัก 3 ขั้นตอน ได้แก่

Advertisement

1.หาเงินให้เก่ง หากเงินเดือนไม่ดีต้องหารายได้อีกทาง อย่าให้มีรายได้ทางเดียว

2.เก็บเงินให้อยู่ อาจนำเงินติดตัวไว้จำกัดชัดเจนในแต่ละวันเช่นไม่เกินวันละ 300 บาท รวมทั้งไม่ใช้บัตรเครดิต เพราะนี่คือสิ่งที่คนไม่มีวินัยทางการเงินพ่ายแพ้ง่ายๆ

สุดท้ายคือการทำเงินให้งอกเงย อาจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ บ้าง ข้อสำคัญคือต้องลงทุนเฉพาะในทรัพย์สิน อย่าลงทุนในหนี้สินอย่างเด็ดขาด

แม้ฟังดูจะเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่หากอยากจะรวยย่อมต้องใช้เวลา

“ความสำเร็จต้องใช้เวลา ทุกคนมีผลลัพธ์และศักยภาพไม่เหมือนกัน อยู่ที่การวางแผน ไหวพริบและความพยายาม ส่วนตัวแล้วพูดเสมอว่า คนหัดขี่จักรยานไม่จำเป็นต้องล้มทุกคน ชีวิตอาจมีอุปสรรคต่างๆ เข้ามาบ้าง แต่นั่นคือสิ่งทดสอบว่าเราเหมาะสมกับความสำเร็จนั้นหรือเปล่า หากไม่สามารถผ่านไปได้ เราก็ไม่มีคุณค่าพอสำหรับสิ่งนั้น ปัญหาเป็นเรื่องปกติที่เราต้องแก้ไปเรื่อยๆ อย่าท้อ”

และเพราะว่า “มี” บนความไม่มีนี่เอง เธอจึงมองว่าทุกวันนี้ทุกอย่างคือกำไร และคอยสอนลูกเสมอว่าเราเองจน และโชคดีที่มีวันนี้ จึงควรเพียรพยายามต่อไป และไม่เบียดเบียนผู้อื่น พร้อมกันนี้เธอยังหาโอกาสถ่ายทอดเคล็ดลับเรื่องเงินให้ผู้อื่นเสมอ

ส่วนหนึ่งของสาวสู้ชีวิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image