กรมอนามัย-เครือข่าย ปันน้ำใจ ส่งนมกว่า 7,600 กล่อง ให้เด็กเปราะบาง1,270 คน

กรมอนามัย จับมือเครือข่าย ปันน้ำใจให้นมน้อง ส่งกว่า 7,600 กล่อง ให้เด็กกลุ่มเปราะบาง1,270 คน

วันนี้ (27 พ.ค.64) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ (FAO) กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันดื่มนมโลก” หรือ “World Milk Day” เพื่อให้ประเทศและองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญและร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ดื่มนม ซึ่งแคมเปญในปี 2021 คือ “Enjoy Dairy” สอดรับกับนโยบายของ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ.ที่ส่งเสริมและกระตุ้นให้ทุกกลุ่มวัยเห็นความสำคัญของการดื่มนม เนื่องจากในปัจจุบันพบว่า คนไทยดื่มนมน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยทั่วโลกมีอัตราค่าเฉลี่ยการดื่มนมอยู่ที่ 113 ลิตรต่อคนต่อปี เอเชียมีการดื่มนม 66 ลิตร/คน/ปี ดังนั้น การจัดกิจกรรมรณรงค์วันดื่มนมโลกประจำปี 2564 จึงเป็นการ มุ่งเพิ่มเป้าหมายการดื่มนมของคนไทย จาก 18 ลิตร/คน/ปี ในปัจจุบัน เป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2570

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับในปี 2564 กรมอนามัย ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย เครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน ร่วม “ปันน้ำใจ ให้นมน้อง” มอบนมโครสจืดให้กับเด็กกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสในมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมที่ไม่ได้สังกัดหน่วยงานภาครัฐ จึงไม่เคยได้รับนมจากหน่วยงานใด ตลอดจนเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา (ไม่ได้เข้าโรงเรียน) ในชุมชนแออัด ทั้งที่ติดตามผู้ปกครองมาทำงานก่อสร้างในชุมชนเมือง ครอบครัวมีรายได้ต่ำ/ไม่มีรายได้ จำนวนกว่า 7,600 กล่อง ให้กับเด็กอายุ 3-14 ปี จำนวน 1,270 คน

“ทั้งนี้ นมนับเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 2 และวิตามินบี 12 โปรตีนในนม เป็นโปรตีนคุณภาพดี ช่วยในการเจริญเติบโต แคลเซียมในนมปริมาณมากและดูดซึมได้ดีที่สุด แคลเซียมและฟอสฟอรัสในนม มีความสำคัญมากต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโตและมีความสำคัญมากขึ้นในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีช่วงโตเร็ว จะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นมาก ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง นอกจากนี้ นมยังมี วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็นและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย วิตามินบี 1 ช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ถ้าขาดจะทำให้เกิดโรคเหน็บชา วิตามินบี 2 ทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการเผาผลาญอาหาร ทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ป้องกันโรคปากนกกระจอก วิตามินบี 12 ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดแดง” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

Advertisement

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สิ่งที่กรมอนามัยดำเนินการมาโดยตลอดคือการกระตุ้นให้คนไทยทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย หันมาบริโภคผลิตภัณฑ์นมภายในประเทศกันมากขึ้น เพื่อส่งเสริมโภชนาการให้เด็กไทยไม่อ้วน ผอม เตี้ย พร้อมทั้งกำหนด ข้อปฏิบัติในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย ซึ่งหนึ่งในข้อปฏิบัติคือ การดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย โดยเฉพาะ เด็กวัยเรียนวัยรุ่น ควรดื่มนมจืดวันละ 2 แก้ว ร่วมกับอาหารประเภทอื่นๆ ที่หลากหลายครบ 5 หมู่ ในแต่ละวัน ออกกำลังกาย ที่มีการกระแทกของข้อต่อ เช่น การกระโดด วันละ 60 นาที รับแสงแดดทุกวัน และนอนให้เพียงพอ 9-11 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้เด็กไทยเติบโตเต็มศักยภาพ สมวัย สูงดีสมส่วน แข็งแรงและฉลาด โดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลความรู้เรื่องนมได้ที่สำนักโภชนาการและกรมอนามัยตลอดเดือนมิถุนายนนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image