‘บิ๊กหอย’ เชื่อ ‘มาดามแป้ง’ คุณสมบัติครบนำทีมชาติไทย มั่นใจพาไปลุยฟุตบอลโลก!
หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่และชุด 23 ปี นับเป็นการกลับมาใช้ระบบมีผู้จัดการทีมประจำชุดอีกครั้ง หลังจากยกเลิกไประยะหนึ่ง ซึ่ง มาดามแป้งกล่าวว่า ได้ขอคำปรึกษาอดีตผู้จัดการทีมชาติไทยหลายคน รวมทั้ง “บิ๊กหอย” ธวัชชัย สัจจกุล ที่โด่งดังจากชุดดรีมทีมด้วย
ด้าน บิ๊กหอยกล่าวว่า มาดามแป้งได้โทรมาบอกว่าจะเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ตนก็แสดงความยินดี แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสแนะนำอะไรมาก
อดีตผู้จัดการทีมชาติไทยกล่าวต่อว่า ตำแหน่งผู้จัดการทีม สำคัญกับการบริหารทีมชาติไทย มันมีอะไรลึกซึ้งกว่าแค่เอาโค้ชต่างชาติมาทำทีม จะบอกว่าไม่ต้องมีไม่ได้ ผู้จัดการทีมจะคอยดูแลประสาน แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย เอาง่ายๆ อย่างค่าอาหารว่างนักบอล ทั้งนี้ผู้จัดการทีมจะเป็นเป้าในการรับผิดชอบซึ่งคุณสมบัติผู้จัดการทีม คือต้อง บ้าบอล, มีความรู้เรื่องฟุตบอล, ต้องพร้อมด้านการเงิน และเมื่อมีเงินก็ต้องพร้อมจะให้ด้วย
นายธวัชชัยกล่าวด้วยว่า ตนเห็นด้วยที่ มาดามแป้ง รับหน้าที่ดังกล่าว ถ้าจะมีผู้จัดการทีมคนไหน พาทีมไทยไปบอลโลกได้ มาดามแป้ง จะเป็นคนแรก เพราะมีคุณสมบัติครบ คือ แม้จะเป็นผู้หญิง แต่รักฟุตบอล บ้าฟุตบอลมาก มีความบ้าเลือดเหมือนตน ดูจากแอ๊กชั่นเวลาอยู่ข้างสนาม พอชนะกระโดดโลดเต้น พอแพ้ก็เศร้า ข้อต่อมาคือมีเงินเยอะ แล้วก็ใช้เงินเป็นด้วย ไม่สุรุ่ยสุร่าย อย่างโค้ชนอก คิดว่าไม่จำเป็น ก็ใช้โค้ชไทยก็ได้
“ถ้าใครจะเป็นผู้จัดการทีมที่พาไทยไปบอลโลกคนแรก ผมว่าก็ต้องเป็นแป้ง ถ้าจะไปต้องไปยุคนี้ ถ้าแป้งทำไม่ได้ก็ยากแล้ว”
อดีตผู้ปลุกปั้นทีมชาติไทยชุดดรีมทีม กล่าวต่อไปว่า เชื่อว่าปัญหาทั่วไป มาดามแป้ง คงรู้อยู่แล้วว่าจะเจออะไร เพราะทำงานฟุตบอลมานาน แต่สิ่งที่ตนยังไม่ได้บอก และอยากจะบอกคือ อย่าเข้าใจแบบเก่า การทำบอลอย่าคิดว่าโค้ชต้องเก่งอย่างเดียว แต่นักบอลต้องเก่ง นักบอลไม่เก่งไม่มีวันชนะใครได้ คำถามต่อมาคือจะเอาจากไหน ซึ่ง มาดามแป้ง ก็ต้องเจรจากับสโมสร ซึ่งก็อาจมีข้อแลกเปลี่ยนที่ต้องส่งกลับไป เรื่องการขอผู้เล่น ผู้จัดการทีมถือว่าสำคัญ หากไม่มีผู้จัดการทีมมาประสาน สมาคมก็ต้องใหญ่พอให้สโมสรเกรงใจ แล้วก็มีอะไรตอบแทน
นายธวัชชัยกล่าวปิดท้ายว่า ต้องเตรียมนักบอลให้ดีๆ สมัยนี้อย่าหวังกับนักเตะที่เล่นต่างชาติ อย่าง ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาก จะมาเล่นให้ได้หรือไม่ก็ไม่รู้ ให้เตรียมนักบอลที่มี ปั้นขึ้นมาในระดับใกล้เคียง อาจจะระดับ “เอ-“ ซึ่งต้องทำให้เมื่อขาดนักเตะต่างชาติแล้วทีมไปต่อได้ นอกจากนี้ อยากย้ำว่า ในชุด 23 ปี ต้องจริงจัง อย่าปล่อยเด็ดขาด เพราะนี่เป็นขุมกำลังสำคัญอย่างมากในอนาคต เหมือนยุคหนึ่งที่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทำทีม 23 ปี ขึ้นมา ซึ่งชุด 23 ปีนี้ เห็นด้วยที่ใช้โค้ชไทย ถือเป็นการปั้นโค้ชขึ้นมาด้วยอีกทาง
