สปสช.เผยแจกฟาวิพิราเวียร์จนหมด รพ.ราชวิถี อัดเพิ่มอีกแสนเม็ด ดูแลผู้ป่วยโควิด

สปสช.เผยแจกฟาวิพิราเวียร์จนหมด รพ.ราชวิถี อัดเพิ่มอีกแสนเม็ด ดูแลผู้ป่วยโควิด

วันนี้ (26 กรกฎาคม) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สปสช.ได้รับมอบนโยบายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการจัดระบบสายด่วน สปสช.1330 เพื่อเป็นระบบเสริมในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ภายหลังจากตรวจ ATK แล้วมีผลขึ้น 2 ขีด แต่ยังไม่ได้รับบริการ ทั้งในกลุ่ม 608 และกลุ่มที่ไม่ใช่ 608 โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น จากข้อมูลการดำเนินการปรากฏว่า ในช่วง 2 วันแรกของการเปิดระบบ คือในวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2565 มีประชาชนที่ผลตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด โทรเข้ามายังสายด่วน สปสช.1330 เพื่อขอรับการบริการจำนวนมาก

“ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในกลุ่ม 608 และได้รับการประเมินตามหลักเกณฑ์แล้วว่าจำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม สปสช.ได้จัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วย จำนวน 542 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 ราย รวมเป็นยาจำนวน 27,217 เม็ด และวันที่ 24 กรกฎาคม ได้จัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยอีกจำนวน 218 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 13 ราย รวมเป็นยาจำนวน 11,103 เม็ด โดยรวม 2 วัน สปสช.ได้ส่งยาให้กับผู้ป่วยแล้วทั้งหมด 760 ราย เป็นยาจำนวน 38,320 เม็ด” นพ.จเด็จกล่าว

เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า ด้วยจำนวนการจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับผู้ป่วยกว่า 700 รายนี้ ทำให้ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ สปสช.หมดสต๊อก ส่งผลให้เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา สปสช.ไม่สามารถจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยได้ ดังนั้น สปสช.ได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มเติมแล้ว โดยโรงพยาบาล (รพ.) ราชวิธี กรมการแพทย์ ได้ร่วมให้การสนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 100,000 เม็ด เพื่อให้ สปสช.ดำเนินการจัดส่งยาให้ผู้ป่วยกลุ่ม 608 ที่ยังไม่เข้าสู่ระบบบริการ

“สปสช.ขอบคุณ รพ.ราชวิถี ที่ร่วมสนับสนุนยา 1 แสนเม็ด เพื่อร่วมดูแลผู้ป่วยกลุ่ม 608 ในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ยังเข้าไม่ถึงบริการนี้ ซึ่งการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ สปสช.ดำเนินการอยู่นี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจ่ายยาในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ของกรมการแพทย์ ภายใต้การประสานความร่วมมือกับ รพ.นพรัตนราชธานี และ รพ.เลิดสิน” นพ.จเด็จกล่าว และว่า นอกจากนี้ สปสช.ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณการจัดส่งยาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ดำเนินการจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมง โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ด้วย

Advertisement

นพ.จเด็จกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่าการให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ของ สปสช. เป็นเพียงระบบที่ช่วยเสริมการบริการหลักเท่านั้น รวมถึงผู้ป่วยกลุ่ม 608 ซึ่งผู้ป่วยโควิด-19 สามารถรับบริการผ่าน 3 ช่องทางหลักดังนี้
1.บริการที่คลินิก/โรงพยาบาล ตามสิทธิสุขภาพของตัวเอง
2.รับบริการแบบ Telemedicine ซึ่งทีมผู้ให้บริการ Telemedicine จะทำการคัดกรองเบื้องต้น หากไม่มีอาการ จะจ่ายยาแล้วติดตามอาการภายใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้ามีอาการ ผู้ให้บริการ Telehealth จะประสานส่งต่อคลินิก/โรงพยาบาลเพื่อดูแลตามแต่ละการจัดการของโรงพยาบาล
3.บริการที่ร้านยา ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว สิทธิบัตรทองและสิทธิประกันสังคม โดยรับยารักษาตามอาการ-คำแนะนำการใช้ยา (ครอบคลุมทั่วประเทศ)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

ทั้งนี้ สปสช.ได้รวบรวมลิงก์ลงทะเบียนเพื่อการรักษาผู้ป่วยโควิดไว้ที่เว็บไซต์ สปสช. ดูรายละเอียดได้ที่
รวมลิงก์ลงทะเบียนรักษาโควิด-19 ด้วยระบบการแพทย์ทางไกล จัดส่งยาถึงบ้าน ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
https://www.nhso.go.th/news/3680
ป่วยโควิด-19 สิทธิบัตรทอง 30 บาท รักษาที่ไหนได้บ้าง?
https://www.nhso.go.th/news/3681
ดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197
หรือดูแผนที่ดิจิทัล ร้านยาใกล้ฉัน Nostra Map https://map.nostramap.com/NostraMap/?layer/covid19pharmacy,feed/th

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image