ตำรวจทางหลวง ล่าระทึก 70 กิโล เฟอร์จูนเนอร์ขนยาบ้า 2 ล้านเม็ด จากหลังสวนชุมพรจนมุมที่ท่าชนะสุราษฎร์
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ 4 (ชุมพร) กองกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจบนถนนทางหลวงเอเชีย 41 บริเวณแยกวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้สังเกตเห็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 6185 กรุงเทพมหานคร ขับเอียงซ้ายคล้ายบรรทุกของหนักมุ่งหน้าไปทาง จ.สุราษฎร์ธานี จึงแจ้งตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานีทราบ และประสาน สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทราบ
ต่อมาเวลา 06.00 น. พ.ต.ท.เวทิศ ปานชาตรี รอง ผกก.สส.สภ.ท่าชนะ สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพรินทร์ รักบำรุง สวป.สภ.ท่าชนะ, พ.ต.ท.กรกฎช สัตตรัตน์ สว.สส.สภ.ท่าชนะ, ร.ต.อ.วิรัตน์ ฤทธิอา รอง สว.สส.สภ.ท่าชนะ, ร.ต.อ.มานิตย์ กาญจนะภาชนะ รอง สวป.สภ.ท่าชนะ นำชุดสืบสวนและเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณจุดตรวจสี่แยกหนองนิล ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ 4 นำรถยนต์ตำรวจทางหลวงขับไล่ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยมาจนบริเวณสี่แยกหนองนิล รถผู้ต้องสงสัยเห็นตำรวจยืนสกัดอยู่จึงขับหลบเลี้ยวเข้าไปทางตลาดท่าชนะ แต่ไม่ชำนาญเส้นทาง ได้ขับไปถึงทางตันบริเวณคอสะพานข้ามทางรถไฟท่าชนะที่กำลังซ่อมอยู่บ้านตลาดตก หมู่ 1 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ ซึ่งคนขับพยายามจะกลับรถหนีไปอีกเส้นทางจนพบตำรวจทางหลวงชุมพรที่ 4 ที่ดักอยู่ แต่คนขับรถกลับเร่งเครื่องหลบหนีไปชนรถยนต์ตำรวจ สภ.ท่าชนะ ที่เข้าไปช่วยสกัดจับและเตรียมใช้อาวุธปืนยิงยางรถคันดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังรถยนต์ต้องสงสัยถูกรถยนต์ตำรวจจอดปิดทางหนีไปไม่รอดสามารถควบคุมคนในรถได้ทั้งหมด 3 คน มีนายนริศ เพชรขำ อายุ 21 ปี ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี, น.ส.มุกมณี (เดียร์) วัชรชัยวรรณ อายุ 17 ปี ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนายวิชิตา (เหมา) กลิ่นกัณหา อายุ 23 ปี ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 2 ล้านเม็ด จึงควบคุมสอบสวนที่ สภ.ท่าชนะ รวมระยะทางไล่ล่าประมาณ 70 กิโลเมตร
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายนริศให้การว่า จะเดินทางไปหาลูกที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้รับจ้างขนยาเสพติดไปพร้อมกัน โดยรับยาบ้ามาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจะไปส่งให้คนที่นัดรับเป็นผู้หญิง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มีอายุ รูปร่างผมสั้น ที่บริเวณแถววัดโมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยรับจ้างขนยาเสพติดเป็นครั้งที่ 3 ได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 40,000 บาท ซึ่งมีคนขับรถนำทางไม่ทราบชื่อคอยโทรบอกทางตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติมา 2 ปี ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
