ถามว่าอะไรคือเหตุผล “หลัก” ที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง “รัฐมนตรี”เพราะต้องการไปประกอบ”ธุรกิจ” อย่างนั้นหรือ
ไม่ใช่หรอก ปัจจัยหลักมาจากไม่เห็นด้วยกับการย้าย “อธิบดี” คนหนึ่งออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหันเพราะเป็นอธิบดีที่ “รัฐมนตรี” เสนอ “แต่งตั้ง”
ทำอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ผ่านความเห็นชอบระดับ กระทรวง ผ่านความเห็นชอบของ ครม.แต่กลับมีการโยกย้ายออกจาก “ตำแหน่ง”
เป็นการโยกย้ายโดยมิได้มีการหารือกับ “รัฐมนตรี” ที่รับผิดชอบ เป็นการย้ายโดย “มาตรา 44”
ตรงนี้คือสิ่งที่ “รัฐมนตรี” ยอมรับไม่ได้
ถามว่าอะไรคือเหตุปัจจัยอันทำให้ต้องมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดตามพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
คำตอบ 1 เพราะมีคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 157 ซึ่งออกหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ค้ำอยู่
คำตอบ 1 เพราะมีเรื่อง “ร้องเรียน”
เป็นการร้องเรียนและต้องการให้แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาใน พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
1 คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.
1 คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป ที่กำลังจัดตั้งพรรคการเมือง
ข้อเสนอจาก 2 คนนี้สำคัญ
สำคัญถึงกับต้องมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 มาผ่อนคลายข้อกำหนดของพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
ระหว่างการย้ายอธิบดีในกระทรวงแรงงาน กับ การผ่อนคลายข้อกำหนดของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
มีจุดร่วมอยู่ที่ “มาตรา 44”
ผลจากการย้ายอธิบดีส่งผลให้ “รัฐมนตรี” เจ้ากระทรวงแรงงานตัดสินใจลาออกเพราะเห็นว่าเท่ากับเป็นการ “หลู่เกียรติ”
ขณะที่การใช้มาตรา 44 กับ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรู้สึกในจุดอ่อนและความบกพร่อง
ไม่ว่า “กรธ.” ไม่ว่า “สนช.”