ฉันเปล่านา-เขามาเอง พุ่มพวงไม่ได้พูด ประยุทธ์ไม่ได้ดูด

1 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนแถลงข่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า

วันนี้อารมณ์ดี มีความสุขที่ได้ทำอะไรให้กับประเทศชาติ จะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง แต่ก็ได้ทำไปเยอะพอสมควร

ก่อนจะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักวิชาการออกมาวิจารณ์คนในรัฐบาลและ คสช. เล่นการเมืองด้วยวิธีการดูด ส.ส. เป็นการกลับเข้าสู่วงจรแบบเก่าว่า

Advertisement

ก็เห็นนักวิชาการออกมาทักท้วงตั้งข้อสังเกตมาวิจารณ์กันเยอะ ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไป

การที่พูดว่าดูดเป็นมานานแล้วนั้น คงไม่ใช่ว่าจะยอมรับกติกาตัวนี้ แต่อยากให้พิจารณาดูว่าที่มีข่าวสารออกมา เป็นเรื่องที่นักการเมืองสมัครใจกันเองหรือไม่

ทุกทีเวลาเลือกตั้งก็จะเห็นอยู่ ทุกคนจะย้ายไปตรงนู้นตรงนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละพรรค แล้วแต่ว่าเขาเห็นอนาคตหรือไม่

Advertisement

เป็นเรื่องของเขา ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวตรงนี้เลย

“ผมยังได้สอบถามพรรคการเมืองที่มีข่าวว่าสนับสนุนผม โดยถามไปว่าทำแบบนั้นหรือ ไปเสนอผลประโยชน์กันไว้หรือ

เขาบอกว่าไม่ได้มีอะไร นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนติดต่อมาขอพบหารือ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องระมัดระวัง ซึ่งทุกคนคงทราบดีแล้ว ตนไม่เห็นด้วยเลย

หากเป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง หรือนโยบายต่างๆ เป็นเรื่องของเขา บังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว

แต่การใช้เงินหรือเสนอผลประโยชน์ไว้ล่วงหน้า สิ่งนี้ไม่ต้องการโดยเด็ดขาด

จะไปซื้อ สัญญา จะให้ตำแหน่งโควต้ารัฐมนตรี ตรงนี้คิดว่าไม่ค่อยถูก

แต่หากเป็นเรื่องที่ทุกคนจะเข้ามาทำการเมือง หรือพัฒนาประเทศร่วมกัน

จะต้องหารือกันว่าจะทำอย่างไรในการเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

“ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจกลุ่มก้อนพรรค-นักการเมือง

ที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ “ดูด”

แต่ระบุว่าเข้ามาติดต่อเองด้วยความสมัครใจได้ดังนี้

1.พรรคภูมิใจไทย กลุ่มเนวิน ชิดชอบ-อนุทิน ชาญวีรกุล จำนวน 25 ส.ส.

จากนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์

2.พรรคพลังชล นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 7 ส.ส.

จากชลบุรี ปราจีนบุรี และแม่ฮ่องสอน

3.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ 7 ส.ส.

จากนครราชสีมา

4.พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา 7 ส.ส.

จากสุพรรณบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา

5.พรรคมัชฌิมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 9 ส.ส.

จากสุโขทัย ชัยนาท และราชบุรี

6.กลุ่มบ้านริมน้ำ นายสุชาติ ตันเจริญ 3-5 ส.ส.

จากฉะเชิงเทรา

7.ตระกูลสะสมทรัพย์ 5 ส.ส.

จากนครปฐม

และ

8.กลุ่ม กปปส. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 6 ส.ส.

ถ้ากระบวนการ “ฉันเปล่านา เขามาเอง” ตามความเข้าใจของ พล.อ.ประยุทธ์

หรือการ “ดูด” ตามความเข้าใจของคนภายนอก

ประสบความสำเร็จ

รวมทั้งจำนวน ส.ส.ที่ได้รับไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แปลว่าภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์จะมีเสียง ส.ส.สนับสนุนในสภาไม่ต่ำกว่า 70 ที่นั่ง

ยังไม่รวมกับจำนวนวุฒิสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้งอีก 250 ที่นั่ง

นายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใครได้

แต่-ในทางการเมืองนั้นมี “แต่” เสมอ

แต่ที่จะต้องพิจารณาประกอบก็คือ

1.จากสถิติที่ผ่านมา ในการเลือกตั้งทั่วไปทุกครั้ง จะมี ส.ส.เก่าหลุดหายไป ส.ส.ใหม่แทรกเข้ามา ประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด

2.นี่คือการเลือกตั้งภายใต้อิทธิพลโซเชียลมีเดียครั้งแรกในประเทศไทย

ที่คิดว่าจะ “คุมได้” ก็อาจจะคุมไม่ได้

ที่ไม่คิดว่าจะเกิด ก็เกิดขึ้นได้

กระบวนการ “ฉันเปล่านา เขามาเอง” จึงไม่ใช่เครื่องรับประกันความมั่นใจในการเมืองได้ทั้งหมด

กระบวนท่าต่อไปของ “พลังประชารัฐ” คืออะไร

น่าจับตา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image