เมื่อเวลา 18.53 น. วันที่ 9 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในกิจกรรมปั่นจักรยาน ไบค์ อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ที่บริเวณโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เขตธนบุรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปั่นจักรยานนำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ถึงบริเวณเส้นทางที่ 6 ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ระยะเวลาจากจุดเริ่มต้น ณ พระลานพระราชวังดุสิต ถึงเส้นทางที่ 6 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยมีประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลือง และประชาชนที่เข้าร่วมปั่นจักรยานสวมเสื้อพระราชทาน อุ่นไอรัก สีเหลืองฟ้า คอยรับเสด็จอย่างหนาแน่นทั้งสองข้างบาทวิถี และแสดงความเคารพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง พร้อมโบกธงพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. ธงชาติไทย และธงสัญลักษณ์งานอุ่นไอรักฯโดยพร้อมเพรียงกัน
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับพักอิริยาบถ ที่จุดพัก ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนจะทรงปั่นจักรยานนำขบวนพสกนิกร มุ่งหน้าไปยังสวนสุขภาพลัดโพธิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และเสด็จฯ กลับเส้นทางเดิม โดยเสด็จฯ ถึงบริเวณโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เขตธนบุรี อีกครั้ง ในเวลา 20.33 น. และเสด็จฯออกจากโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เมื่อเวลา 21.09 น. เพื่อไปยังจุดสิ้นสุด ที่พระลานพระราชวังดุสิต โดยมีประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่รอเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยาน ไบค์ อุ่นไอรัก ที่จุด จี เข้าร่วมท้ายขบวนปั่นตลอดเส้นทางที่เสด็จฯ รวมระยะทาง ไป-กลับ 39 กิโลเมตร
นายไชยภพ ภู่จินดา อายุ 40 ปี ประกอบอาชีพรับราชการ เจ้าหน้าที่งานรักษาความสะอาด เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากเขตสะพานสูง ฝั่งรามคำแหง และได้มารอรับเสด็จฯตั้งแต่เวลา 11.00 น. โดยมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานหลายคน มาประจำจุดที่ 6 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
“รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มารับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ เพราะว่ากิจกรรมเช่นนี้จะมีเพียงปีละครั้ง ดีใจที่มีประชาชนจำนวนมากมาพร้อมเพรียงกันบนท้องถนน ซึ่งเป็นภาพที่ออกมาสวยงามมาก รู้สึกประทับใจ เพราะเป็นหนึ่งในความทรงจำของผม” นายไชยภพกล่าว
นายไชยภพยังกล่าวด้วยว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ผ่าน ตนรู้สึกดีใจที่ได้เฝ้าฯรับเสด็จ พระองค์ทรงปั่นจักรยานนำขบวนประชาชนในงาน ไบค์ อุ่นไอรัก ได้ เกิดเป็นภาพที่สวยงามมาก ที่ประชาชนทุกคนเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ เพื่อแสดงความยินดีในครั้งนี้
นางพรรธิภา วัฒนะ อายุ 34 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางมาจากชุมชนสุวรรณประสิทธิ์ เขตบึงกุ่ม พร้อมกับลูกชาย พี่สาว และคนในชุมชน กล่าวว่า เดินทางมาถึงเวลา 13.00 น.โดยเตรียมแผ่นพลาสติกมาจากที่บ้านมาด้วยเพื่อปูรองนั่ง และว่า ตนอยากพาลูกมาปั่นจักรยานด้วย แต่ไม่มีจักรยาน
“รู้สึกดีใจมาก เพราะอยากมารอเฝ้าฯรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสักครั้งในชีวิต” นางพรรธิภากล่าว
ด้าน น.ส.นิกุลณ์ แซ่ตั้ง อายุ 40 ปี พนักงานประจำและประกอบอาชีพอิสระ ผู้รอร่วมปั่นจักรยานขบวน ไบค์ อุ่นไอรัก เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาถึง รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า เวลา 15.00 น. โดยปั่นจักรยานพร้อมแฟนจากบ้านแถวถนนพระราม 2 ระยะทาง 10 กว่ากิโลเมตร ซึ่งตนมาปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติทุกครั้ง โดยวันนี้เห็นว่าคนมาเยอะเหมือนกัน
“ปกติปั่นจักรยานอยู่แล้ว มีหลักๆ 2 ที่ คือที่เส้นพระราม 2 เป็นแถวบ้านเเต่ถ้ามีเวลาหน่อยก็จะขับรถไปปั่นที่สกายเลนบางนา ดีใจที่เห็นคนมาเยอะ คิดว่าไม่ต่ำกว่าแสนคน ได้เห็นพระองค์ก็รู้สึกตื้นตันใจที่จะได้เห็นพระองค์สักครั้ง เพราะปกติก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปรับเสด็จฯที่ไหน นอกจากงานปั่นจักรยาน” น.ส.นิกุลณ์กล่าว
น.ส.นิกุลณ์กล่าวเสริมด้วยว่า อยากให้คนมาปั่นจักรยานเยอะๆแบบนี้ทุกปี ใครที่เคยมาปั่นแล้วก็มาปั่นอีก ใครที่ยังไม่เคยมาปั่นก็ลองดู ปั่นได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่จำเป็นต้องปั่นครบทั้งเส้นทาง สัก 10-20 กม. ก็ได้ ปั่นสัก 1-2 กม.แล้วกลับก็ได้
