นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ในสถานการณ์วิกฤตจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ของประเทศนั้น กรมปศุสัตว์ได้มอบพันธุ์สัตว์ปีกและปัจจัยการผลิต ตามโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อฟื้นฟูเกษตรกรที่ประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อเป็นอาชีพเสริม ช่วยลดรายจ่าย และเป็นอาหารโปรตีนในครัวเรือน สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกรอย่างมาก ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งและ ไวรัสโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีการมอบพันธุ์สัตว์ และปัจจัยการผลิตแล้ว กว่า 5,000 ครัวเรือน จากเป้าหมาย 77,765 ครัวเรือน โดยกรมปศุสัตว์ได้ให้การสนับสนุนพันธุ์สัตว์ปีก เป็นพันธุ์ไก่พื้นเมือง อายุ 1 เดือน รายละ 30 ตัว, พันธุ์ไก่ไข่ หรือพันธุ์เป็ดไข่ อายุ 16- 18 สัปดาห์ รายละ 10 ตัว พร้อมอาหารระยะแรก และอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสัตว์ ตามแนวทางฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคที่เหมาะสมและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (จีเอฟเอ็ม) ซึ่งเมื่อเลี้ยงต่ออีก 2-3 สัปดาห์ก็จะให้ผลผลิตไข่ เกษตรกรสามารถบริโภคในครัวเรือน เป็นอาหารโปรตีน ช่วยลดค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์ภัยแล้ง และโรคโควิด-19 ตามวัตถุประสงค์ของกรมปศุสัตว์
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า การสนับสนุนพันธุ์สัตว์ปีกดังกล่าวนั้น เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและอุทกภัยเมื่อปี 2562 รวม 17 จังหวัด อาทิ เชียงราย น่าน มหาสารคาม บึงกาฬ และหนองคาย เป็นต้น โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2562 จำนวน 378,188,450 บาท ทั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 นี้
