‘บิ๊กตู่’ เตือนสื่อต้องรู้จักเอาตัวรอดในเวทีม็อบ ชี้ จนท.ตำรวจประกาศก่อนสลาย ย้ำ ตำรวจไม่ได้เริ่ม ฉุนทวิตเตอร์คุกคามลูกสาว ลั่น ครอบครัวไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน บอกสื่อทำไมไม่ช่วยกันบ้าง
เมื่อเวลา 12.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 2/2564 ว่า การประชุม สมช. ตนได้ลงรายละเอียดในเรื่องของนโยบายถึงแนวปฏิบัติและการปฏิบัติ รวมถึงการแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งมีหลายมิติด้วยกัน เน้นในเรื่องการปลูกฝังความรักสามัคคี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ย้ำเตือนในที่ประชุม โดยฝ่ายนโยบายจะกำหนดแนวปฏิบัติขั้นต้นลงไปในแต่ละเรื่อง แต่ละประเด็น แต่ละหัวข้อ จะต้องทำอะไรบ้าง รวมถึงภาระหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน โดยให้ทุกหน่วยสอดประสานยุทธศาสตร์ด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์การชุมนุม ที่ประชุม สมช.ได้มีการประเมินหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ประเมินมาโดยตลอด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการแยกสลายไปหลายกลุ่ม บางกลุ่มไม่มีความรุนแรง แต่บางกลุ่มก็ใช้ความรุนแรง จะเห็นได้ว่าเขามีการปรับเปลี่ยนวิธีการมาโดยตลอด ซึ่งรัฐบาลมองว่าจะทำอย่างไรจะให้เหตุการณ์สงบ ประชาชนมีความปลอดภัย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรามองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นประชาชนคนไทยเหมือนกัน สิ่งที่ตนกังวลคือมีประชาชนอีกส่วนหนึ่ง หรือจำนวนหนึ่งที่เขาไม่ค่อยชอบ ตนก็ต้องไประวังตรงนั้นด้วย ไม่ให้เขาเกิดการทำร้ายซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ หากไม่ทำอะไรให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกันก็จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ฉะนั้นสื่อต้องช่วยตรงนี้นิดนึง การถ่ายภาพอะไรต่างๆ
“วันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพครอบคลุมพื้นที่ไว้ด้วย ซึ่งเป็นห่วงสื่อมวลชนที่อยู่ใกล้ในพื้นที่ชุมนุมมากๆ เวลามีการปฏิบัติอะไรย่อมได้ผลกระทบบ้าง อาจเกิดอันตราย ซึ่งผมมีความเป็นห่วง
“ขณะเดียวกันได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เขายืนยันว่ากรณีที่มีการใช้อาวุธปืนกำลังติดตามสอบถามจากกล้องทั้งหมดอยู่ แต่เขายืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่แน่นอน มีการทำร้ายกันของประชาชนกลุ่มหนึ่ง และพวกนี้ผ่านไปก็ไปช่วยเขา ปรากฏว่าก็มีการใช้อาวุธออกมา ตรงนั้นคือสิ่งที่เป็นห่วง
“ส่วนเจ้าหน้าที่ ได้ย้ำเสมอว่าต้องระมัดระวังที่สุด ใครได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติของเราก็ต้องไปดูแลรักษาพยาบาลอะไรก็ว่าไป เราต้องดูทั้งสองมิติ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเวลาปฏิบัติการสลายชุมนุมจะมีการแยกแยะเรื่องสื่อด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้กำชับไปแล้ว ก็ขอสื่ออย่าไปอยู่ใกล้แนว เพราะอาจเกิดการปะทะกัน สื่อจะต้องเอาตัวเองออกมาในที่ที่ปลอดภัย ก็ขอให้สื่อระมัดระวังตัวกันหน่อย
นายกฯกล่าวอีกว่า ตนเป็นห่วงเวลาไปทำข่าวสื่อเยอะเต็มไปหมด แล้วไปยืนอยู่ฝั่งผู้ชุมนุมแล้วถ่ายภาพเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว วันนี้จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายไปฝั่งผู้ชุมนุมเยอะๆ จะได้เห็นว่าพวกเราอยู่ในจุดเสี่ยงแค่ไหนอย่างไร ตนก็เป็นห่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในสถานการณ์สื่อก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อรู้อยู่แล้วสถานการณ์จะแรงตอนไหน ทำไมจะเลี่ยงไม่ได้ เมื่อรู้ว่าเขาเริ่มจะแรงกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปราบปราม สื่อก็ต้องไปถ่ายภาพข้างๆ ไม่ใช่ไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเขาต้องทำงาน เขาประกาศแล้วไม่ใช่หรือ
“จากนี้จำเป็นต้องทำให้เหตุการณ์สงบ สื่อไม่เห็นหรือว่าก่อนที่ตำรวจจะดำเนินการ เขาถูกกระทำอะไรบ้าง ตำรวจทำอะไรก่อนหรือเปล่า และถ้าไม่มีอะไรเขาจะทำหรือไม่ ตำรวจเคลื่อนกำลังไปหาผู้ชุมนุมหรือไม่ ถ้าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น หรือส่อเจตนาให้เกิดความบานปลาย ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศ สื่อก็ต้องหลบถอยออกมา จะปล่อยให้ไปอยู่ทั่วพื้นที่มันได้หรือไม่
“ทุกประเทศเขาก็เป็นอย่างนี้ ควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด จะชุมนุมก็ชุมนุมไปเถอะ ในพื้นที่ชุมนุมก็ว่าไป แต่การเคลื่อนย้ายไปโน่นไปนี่ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคนอื่นใช่หรือไม่ ถ้ารัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ไม่ทำแล้วคนพวกนั้นเขาร้องเรียนขึ้นมาจะไม่ดูแลเขาหรืออย่างไร
“การใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าไม่ถูกต้อง เข้าใจหรือไม่ สื่อถ่ายรูปแต่เจ้าหน้าที่อย่างเดียว แล้วเอาภาพไปลงหน้าหนึ่งมันดีอะไรกับประเทศบ้างหรือไม่ ขอถามหน่อย มีความรับผิดชอบกับผมบ้างหรือไม่ ประเทศชาติ การสร้างความรับรู้กับต่างประเทศจะว่าอย่างไร จะทำให้เขาเข้าใจผิดหรือไม่ แล้วทำไมไม่มีรูปคนพวกนี้บ้าง ทำร้ายตำรวจแบบนี้มันควร รับได้หรือไม่
“และขอถามว่าตำรวจเขาทำอะไรรุนแรงหรือไม่ เริ่มต้นเขาทำอะไรไหม เขาไปประคับประคองเจรจาพูดคุย อย่าทำผิดกฎหมาย เขาพูดจนคอจะแตกอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีการระดมผ่านทวิตเตอร์ให้คุกคามลูกสาวนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า แล้วมันควรหรือไม่ สื่อก็พูดไปว่าไม่ควร สื่อทุกคนต้องช่วยตนบ้าง ตนไม่เคยเห็นสื่อที่ไหนพูดให้ตนสักคน ทำไมล่ะ
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินคดีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายจะดูเอง เขามีคนดูให้ตนอยู่แล้ว ใครที่พูดจาให้ร้าย เกลียดชัง ดูหมิ่น ก็ถือว่าหมิ่นประมาทอยู่แล้ว หากใครมาทำลูกสาวท่าน ท่านยอมหรือไม่ กฎหมายมีหรือไม่ ก็มี ก็อย่าฝืนกฎหมาย ลูกและครอบครัวตนไม่เคยมาสร้าง หรือมาทำอะไรให้เกิดความเสียหาย ไม่เคยออกมาให้ใครเห็นอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไรบ้าง เพราะวันนี้พุ่งเป้าไปที่สถาบันเป็นหลักไม่ใช่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็รู้อยู่เขามุ่งหมายและต้องการอะไร