อนุทิน เผยถกสมัชชาอนามัยโลก สมัย 75 ราบรื่น เท็ดรอส นั่ง ผอ.ใหญ่อีกวาระ
วันนี้ (25 พฤษภาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการนำคณะผู้บริหาร สธ.เข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) สมัยที่ 75 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม 2565 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ว่า ในการประชุมวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนได้กล่าวถ้อยแถลงหัวข้อ “Health for Peace and Peace for Health” โดยย้ำถึงนโยบายสาธารณสุขของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างเท่าเทียม ด้วยนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่สังคมที่สงบสุข พร้อมทั้งเรียกร้องให้สมาชิกองค์การอนามัยโลกทุกประเทศร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนด้านสาธารณสุขแก่ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะสงคราม และคุ้มครองเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่ทำงานในแนวหน้า ซึ่งการร่วมกันดูแลสุขภาพของประชากรของทุกประเทศ ต้องอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง และประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับประชาคมโลกในการไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งนี้ มีวาระสำคัญ เช่น การเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ซึ่งนายเท็ดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เป็นสมัยที่ 2 การเตรียมความพร้อมและการรับมือกับภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งประเทศไทยได้นำเสนอและแบ่งปันประสบการณ์การรับมือภาวะฉุกเฉินกรณีโควิด-19 ต่อประเทศสมาชิก
“โดยระหว่างการประชุม ได้หารือทวิภาคีกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ซึ่งมีการแสดงความยินดีที่ไทยและมาเลเซียได้เริ่มเปิดพรมแดนทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำระหว่างกัน หลังดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียได้ชื่นชมความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย และเสนอเรื่องการจัดซื้อรวมของภูมิภาคอาเซียน ไม่เฉพาะยาและวัคซีนสำหรับโควิด-19 แต่รวมถึงยาประเภทอื่นๆ เช่น ยารักษาโรคเขตร้อนต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับความคืบหน้านโยบายสนับสนุนการใช้กัญชา กัญชงทางการแพทย์ และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ซึ่งประเทศไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินการทางนโยบายและทางปฏิบัติ รวมถึงยังได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเข้าร่วมการประชุม APEC High level meeting ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2565 และพิธีการเปิดศูนย์ ACPHEED ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่กรุงเทพมหานคร ด้วย” นายอนุทิน กล่าว
รัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวว่า ส่วนการหารือทวีภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเทศคาซัคสถาน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิ ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับทั้ง 2 นโยบายอย่างต่อ เนื่องในเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชน โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นกลไกที่แข็งแกร่งในการดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิ มีการพัฒนาระบบให้แข็งแรงและยั่งยืน และพร้อมแบ่งปันประสบการณ์ แนวทางปฏิบัติแก่ประเทศอื่นๆ
“ขณะที่การหารือกับ ดร.พูนาม เคตราปาล ซิงห์ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเด็นความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างรัฐบาลไทยกับสำนักงานองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ดร.พูนาม ได้ชื่นชมประเทศไทยเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพื่อกระจายวัคซีนโควิด-19 การสื่อสารกับประชาชนในประเด็นต่างๆ ในช่วงการเกิดโรคระบาด ซึ่งการที่ไทยเป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) และ ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม (ASEAN Center for Active Aging and Innovation :ACAI) จะเป็นโอกาสดีที่องค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะให้การสนับสนุนด้านสาธารณสุขแก่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างทั่วถึงผ่านศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมีเพียง 3 ประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย เมียนมา และ อินโดนีเซีย ที่เป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายอนุทิน กล่าว