บาทพลิกแข็งค่า 35.36 บาท หลังฟันด์โฟลว์ นักลงทุนต่างชาติ เข้าซื้อสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน กรุงไทย โกลบอล มาเก็ต ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.47 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.45 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่เดินหน้าซื้อสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังความผันผวนของเงินบาทที่อาจมาจากเงินเหรียญสหรัฐได้ในช่วงระหว่างตลาดรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐ รวมถึงช่วงตลาดรับรู้รายงานการประชุม FOMC ล่าสุด ซึ่งเงินเหรียญสหรัฐอาจพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากตลาดกลับมามองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนกันยายน จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่ได้ชะลอตัวลงจนน่ากังวล แต่เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัญหาสำคัญของเฟดที่ต้องแก้ไข
ด้านตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ (DXY Index) ได้ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 106.4 จุด หลังผู้เล่นในตลาดลดความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยลงบ้าง จากความหวังแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่ได้ชะลอตัวลงหนักหรือเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้เงินเหรียญสหรัฐจะย่อตัวลงมาบ้าง แต่ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดที่หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐปรับตัวขึ้น ได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,789 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ทั้งนี้ คาดว่าสัปดาห์นี้ เงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 35.10-35.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาปรับเปลี่ยนทิศทางของตลาดการเงิน อย่างไรก็ตาม แนะนำช่วงตลาดการเงินผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ระบุว่า ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.25 – 35.45 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดเศรษฐกิจจะขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว สำหรับค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงในวันอังคาร นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปี ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 3% และตลาดตราสารหนี้กับตลาดหุ้นสหรัฐก็ปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้นเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ