คุณครู รร.แม่ริม ใช้โอกาสวันครูสักการะพระบรมศพ นำคำสอน “ในหลวงร.9” ส่งต่อคนรุ่นใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ดำเนินมาเป็นวันที่ 77 ประชาชนจากทั่วสารทิศยังเดินทางมาต่อแถวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวและมีแดดจัด ทั้งนี้ ครูและนักเรียนยังใช้โอกาสในวันหยุดวันครูมากราบสักการะพระบรมศพด้วย โดยสำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบถวายสักการะตั้งแต่เวลา 05.00 น. จากเวลาปกติเปิดเวลา 08.00 น.

คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนแม่ริมวิทยาคม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวม 188 คน เดินทางโดยรถบัสตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 15 มกราคม และเดินทางถึงกรุงเทพฯ และมาต่อแถวบริเวณท้องสนามหลวงช่วง 05.00 น. และเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ในเวลาประมาณ 10.00 น. โดย น.ส.อุมาพร แสงถวิล อายุ 59 ปี ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีนโยบายที่จะส่งเสริมการเรียนรู้นอกสถานที่ แต่ปีนี้ เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในช่วงไว้อาลัย จากเดิมที่ช่วงนี้จะจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมมาเป็นการเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพแทน พร้อมทั้งหลังกราบพระบรมศพก็จะพานักเรียนไปทัศนศึกษาวัดพระแก้ว ซึ่งนักเรียนเห็นด้วยและต่างตั้งใจที่อยากจะมา เพราะการเดินทางมากราบพระบรมศพ เพราะเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ช่วงเดือนพฤศจิกายนทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมกีฬาสี แต่ได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมเชียร์ต่างๆ มาเป็นจัดกิจกรรมแปรอักษรถวามความอาลัยและแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

น.ส.อุมาพร กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่โรงเรียนได้พานักเรียนมาชั้น ม.3 เดินทางมาก่อน เพราะกำลังจะจบการศึกษาแล้ว พร้อมทั้งนักเรียนชั้น ม.2 และ ม.5 ส่วนนักเรียนชั้นที่เหลือจะพามาในวันต่อๆ ไป ในฐานะที่เป็นครูก็ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและถ่ายทอดพระราชดำรัสและพระอัจฉริยภาพของในหลวงในด้านต่างๆ ให้เด็กๆ นำไปปฏิบัติตาม ซึ่งทางโรงเรียนแต่ละสาระวิชาได้นำพระราชดำรัสมาบูรณาการ อย่าง วิชาคณิตศาสตร์ ได้นำเรื่องการออม เข้ามาสอนให้กับเด็กๆ

“คนใน อ.แม่ริมมีความใกล้ชิดกับพระองค์ เนื่องด้วยพระองค์เคยเสด็จฯ ไปวัดป่าดาราภิรมย์ ตนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีต่อคนไทยทุกคน ขณะนี้ ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ปลูกผักไว้กินในครัวเรือน หลังจากเกษียณ ในปี 2561 ก็ยังยึดตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการดำรงชีวิตต่อไป” น.ส.อุมาพร กล่าว

Advertisement

ด้านนายสุรเดช ลุงจาก อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม กล่าวว่า ตนกำลังจะจบการศึกษาในปีนี้ ไม่ได้เรียนต่อ เพราะตั้งใจออกไปช่วยครอบครัวทำเกษตรกรรมและปลูกพืชผักต่างๆ โดยจะนำความรู้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมทั้งเรื่องการเก็บออม และความรู้ด้านการคำนวณ ที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียน มาประยุกต์ใช้กับการประกอบอาชีพต่อไป จะได้ไม่โดนโกงและจะเก็บออมเพื่อให้มีเงินก้อนสะสมไว้ใช้ในยามจำเป็นและเป็นเงินทุนในการประกอบอาชีพด้วย

นายสุรเดช
นายสุรเดช ลุงจาก

นายสุทธิชัย เกษมสุขโชติ อายุ 55 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ชาว จ.ระยอง ได้เลือกเดินทางในวันหยุดวันครูเพื่อพาลูก ๆ มากราบสักการะพระบรมศพ เพื่อจะได้ไม่กระทบกับการเรียน โดยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ก่อนจะมาต่อแถวช่วง 04.00 น. และได้กราบสักการะช่วง 08.30 น. โดยเดินทางมาพร้อมภรรยา นางรัตนาภรณ์ เกษมสุชโชติ อายุ 40 ปี และลูก ได้แก่ นายธีรภัทร อายุ 15 ปี, ด.ญ.วรินทิรา อายุ 12 ปี และ ด.ช.กิตติภัทร อายุ 5 ปี โดยนายสุทธิชัย กล่าวว่า ลูกชายคนเล็กเป็นคนรบเร้าอยากให้พ่อแม่พามากราบพระบรมศพ เขาบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าเป็นความทรงจำนะ อยากมากราบ ผมจึงหาเวลาว่างและมีโอกาสพาลูกๆ มาพร้อมหน้ากันในวันนี้ แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยบ้างเพราะใช้อากาศร้อนแต่พอได้เข้าไปภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทกลับรู้สึกหายเหนื่อยหายร้อนเป็นปลิดทิ้ง

ด้านนางรัตนาภรณ์ กล่าวว่า พวกเรารักในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก ได้ซึมซับมาตลอดชีวิตว่าพระองค์ทรงอุทิศพระวรกายเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชน โดยมิย่อท้อต่ออุปสรรคก็เพื่อพัฒนาแผ่นดินให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ขนาดประชวรก็ยังห่วงประชาชนทรงงานตลอด แม้พระองค์จะสวรรคตมาหลายเดือนแล้ว ตนรู้สึกเศร้าทุกครั้งที่เอ่ยถึง ยิ่งได้ยินเพลงราชาผู้ทรงธรรมแล้วยังอดน้ำตาซึมไม่ได้

Advertisement
ครอบครัวเกษมสุขโชติ
ครอบครัวเกษมสุขโชติ

S__54951950

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image