เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พร้อมคณะ รอรับตัวนายสมนึก หรือแก่ ปานศิลา อายุ 56 ปี ชาว จ.อุทัยธานี ผู้ต้องหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 78 ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 31 (มทบ.31) ใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 เข้าควบคุมตัวไว้ ก่อนส่งตัวให้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช.พร้อมกำลังทหาร เพื่อซักถามข้อเท็จจริงในเบื้องต้นที่ มทบ.11 จากนั้นจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำเอกสารส่งตัวผู้ต้องหาให้กับทางพนักงานสอบสวน บก.ป.แล้ว ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมคณะ ได้เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้นด้วยตนเอง ทั้งนี้ก่อนเริ่มเข้าสู่การสอบปากคำแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ได้ทำการตรวจร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติ ตามขั้นตอน ภายในห้องประชุมชิวปรีชา
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป.นำกำลังตำรวจ กก.4 บก.ป.และคอมมานโด กก.ปพ.บก.ป.กว่า 40 นาย สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธร จ.อุทัยธานี และเจ้าหน้าที่ทหารปูพรมตรวจค้นพื้นที่ จ.อุทัยธานี ก่อนเข้าจับกุมนายบุญยิ่ง หรือดำ จันทร อายุ 60 ปี กับพวก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่า, มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร หลังจากทั้งหมดร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม16 สังหารนายบุญจันทร์ ชาลีนิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ลานสัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559 ในพื้นที่หมู่ 4 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก และก่อเหตุยิงถล่มใส่วงพนันไฮโล ในบ้านเลขที่ 99/7 หมู่ 5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก หมายสังหารนายสุชิน นุ่มภักดี อายุ 60 ปี สารวัตรกำนัน ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก แต่กระสุนพลาด ส่งผลให้นายจำเนียน มาหัวเขา, นายลำดวน พันทะ และนายบุญถิ่น กุลธานี เสียชีวิต และนายดุสิต ศรีวรรณ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกับยึดของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 และกระสุน 43 นัด จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าผู้บงการเป็นอดีตนักการเมืองระดับชาติ และนักการเมืองท้องถิ่น อยู่เบื้องหลังในการว่าจ้างให้ก่อเหตุทั้ง 2 คดี โดยมีประเด็นมาจากปัญหาความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่นและการขัดผลประโยชน์ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี กระทั่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะขออนุมัติศาลออกหมายจับนายสุภาพ โต๋วสัจจา อายุ 67 ปี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย, น.ส.เยาวพร รัตนมณีพันธ์ อายุ 47 ปี กำนัน ต.ลานสัก อ.ลานสัก และนายสมนึก ปานศิลา อายุ 56 ปี โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายสุภาพ และ น.ส.เยาวพร ไว้ได้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นายสมนึกหลบหนีไป กระทั่งมาถูกทหารจาก มทบ.31 ควบคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
จากการสอบปากคำนายสมนึกให้การว่า อาวุธปืนเอ็ม 16 ของกลางนั้นตนซื้อต่อจากนายวันชัย ไม่ทราบนามสกุล รู้จักกันและเคยติดต่อซื้อขายอาวุธปืนมาก่อน โดยซื้อมาในราคา 12,000 บาท จากนั้นถึงขายต่อให้นายบุญยิ่ง หรือดำ เพื่อเอากำไรในราคา 30,000 บาท ครั้งแรกเข้าใจว่านายบุญยิ่ง จะนำไปใช้ล่าสัตว์ ไม่คิดว่าจะนำไปก่อคดี โดยครั้งแรกที่ทราบว่าเป็นปืนที่ขายให้นายบุญยิ่ง ก็รู้สึกตกใจ แต่ไม่คิดว่าจะต้องเกี่ยวพันกับคดีนี้ ยืนยันว่าตนไม่เคยซื้อขายปืนลักษณะนี้ แต่ที่เคยถูกจับกุมเป็นคดีซื้อขายปืนผิดมือ ศาลมีคำพิพากษาให้รอลงอาญา
นายสมนึกกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาอาวุธปืนที่มีอยู่ในครอบครองมีใบอนุญาตถูกต้องทั้งหมด ส่วนปืนที่เคยขายให้ลูกค้าจะเป็นปืนสั้นหลายขนาด แต่ยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาตค้าอาวุธปืน อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าไม่เคยมีอาวุธปืนสงคราม หรือเครื่องกระสุนชนิดอื่นๆ ไว้ในครอบครอง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 แต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า หลังสอบปากคำนายสมนึกในเบื้องต้นแล้ว จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รับไว้ดำเนินคดี โดยจะแจ้งข้อหาค้าอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะสอบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป ส่วนกรณีการซื้อขายอาวุธต่างๆ ที่เกี่ยวพันกับผู้ต้องหาและคดีต่างๆ ในพื้นที่มอบหมายให้ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี เร่งรัดดำเนินการแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลทางคดี
ผู้สื่อข่าวถามถึงที่มาของอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ถูกนำมาใช้ก่อเหตุเป็นของทางราชการหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ อย่างไรก็ดีทางกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ยืนยันแล้วว่าเป็นกระบอกที่ใช้ก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 99/7 หมู่ 5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในส่วนของผู้ต้องหาและผู้ใช้จ้างวาน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด
