“โค้ชเฮง” ติงแข้ง “ช้างศึก” สวิตช์เกมจากรับเป็นรุกช้าไป – มอบโจทย์ทุกฝ่ายเร่งปรับแก้ไข

ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องระดับเอแมตช์ คิดคะแนนสะสมฟีฟ่าแรงค์กิ้ง แพ้ “มังกรแดง” ทีมชาติจีน 0-2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย หวู่ เล่ย เหมาคนเดียว 2 ประตูให้กับทีมชาติจีนในนาทีที่ 37 และนาทีที่ 70 นั้น

“โค้ชมิโล่” มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทีมชาติไทยกล่าววหลังจบเกมว่า พอใจกับการเล่นของลูกทีมที่พยายามกันอย่างเต็มที่ มีโอกาสหลายครั้งแต่ยังคงต้องไปแก้ปัญหาเรื่องของเกมรุกที่ไม่สามารถจบสกอร์กันได้

ขณะที่ “พี” ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ลงสนามให้ทีมชาติชุดใหญ่นัดแรกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และโอกาสยิง 2 ครั้ง ถือว่าทำผลงานได้ประทับใจมาก เขามีเวลาไม่มาก แต่สร้างสีสันได้ยอดเยี่ยม รวมทั้ง “ตังค์” สารัช อยู่เย็น ที่ได้โอกาสลงเล่น ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 23 คนชุดนี้ ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ได้ใช้พวกเขา แต่เราต้องการให้เขาเร่งฟอร์มเพื่อกลับมาอีกครั้ง

กุนซือทีมชาติไทยกล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันรายการชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ซึ่งจะตรงกับช่วงท้ายของศึกเจลีก ฤดูกาล 2018 และจะมีการดึง 3 นักเตะไทยอย่าง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กลับมาหรือไม่นั้น เราทราบจาก 3 สโมสรว่าจะไม่สามารปล่อยมาได้ แต่ในศึกเอเชียนคัพ 2019 พร้อมที่จะเรียกทั้ง 3 คนมาสู่ทีม ซึ่งจะติดตามฟอร์มพวกเขาอย่างใกล้ชิดแน่นอน

Advertisement

ขณะที่ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากผลงานอุ่นเครื่องพ่าย จีน 0-2 ทีมชาติไทยยังคงมีปัญหาในการทำเกมรุกที่ไม่เฉียบขาด โดยนักเตะแต่ละคนก็จะต้องมีบทบาท และรู้หน้าที่ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม นักเตะไทยสามารถตัดสินใจในการเล่นได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า แนวทางการทำประตู หรือการเปลี่ยนจากเกมรับเป็นรุกยังทำกันได้ช้าเกินไป

ประธานฝ่ายเทคนิคลูกหนังไทยกล่าวอีกว่า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการได้เก็บตัวฝึกซ้อมที่มีระยเวลาน้อย ซึ่งถือเป็นปัญหาของนักเตะทีมชาติไทยทุกชุดในตอนนี้ แต่ทั้งนี้นักเตะก็จะต้องพัฒนาฝีเท้ามาจากสโมสรเป็นอันดับแรกก่อน เมื่อมาถึงการเล่นให้กับทีมชาติไทยจึงจะทำผลงานที่ดีได้ โดยในส่วนของฝ่ายเทคนิคก็คงจะเข้าเข้าไปแนะนำในจุดผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเกมนี้ และมีการปรับแก้ไขต่อไป

“แน่นอนว่าฝ่ายเทคนิคคงจะต้องเข้ามาแนะนำนักเตะถึงข้อผิดพลาดต่างๆ เพื่อนำไปปรับในการฝึกซ้อมของแต่ละตัวนักเตะเองในสโมสร เพราะการมาเก็บตัวฝึกซ้อมให้กับทีมชาติเวลามันไม่พอ หลังจากนี้ทุกฝ่ายคงต้องร่วมมือกันพัฒนาทีมชาติไทยต่อไป” โค้ชเฮงกล่าว

Advertisement

โค้ชเฮงกล่าวอีกว่า ทีมชาติไทยยังมีหลายจุดต้องแก้ไข โดยเฉพาะเกมรุก และสร้างโอกาสเข้าทำได้น้อย รวมทั้งการเล่นกองหน้าคนเดียว อาจทำให้เกิดปัญหา ส่วนเกมรับ มิดฟิลด์คู่กลางปกติทำได้ดีแล้ว แต่ทีมชาติจีนชุดนี้พัฒนาขึ้น มีเกมรุกหลากหลาย ดังนั้น การตั้งเกมรับจะต้องรับกันทั้งทีม

“ในเกมรุก ราเยวัช คงต้องทำงานหนัก ในเรื่องการเข้าทำนี้ต้องฝึกมากๆ เมื่อทีมชาติไม่มีเวลารวมตัวซ้อมมากนักก็ต้องชี้ให้แต่ละคนรู้ว่า ควรเล่นอย่างไร ฝึกอย่างไร แล้วนำไปซ้อมด้วยตัวเองในสโมสร”

ส่วนในศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018” จะไม่มี 3 นักเตะเจลีก เนื่องจากอยู่ในช่วงแข่งขันท้ายฤดูกาล และไม่ได้เป็นฟีฟ่าเดย์นั้น โค้ชเฮง กล่าวว่า การขาด 3 คนนี้ ส่งปัญหากับทีมไทยแน่นอน แม้แต่ขาดคนเดียวก็มีผล ดังนั้น นักเตะที่เหลืออยู่ ต้องฝึกให้หนักเพื่อทดแทน ต้องใช้ทีมเวิร์คเข้าสู้

“ขาด 3 คนนี้มีปัญหาแน่นอน แต่ผมยังเชื่อว่าในระดับซูซูกิคัพ แม้จะไม่มี ชนาธิป, ธีรศิลป์ หรือ ธีราทร ทีมชาติไทยก็ควรจะผ่านคู่แข่งได้ อย่าง อินโดนีเซีย ก็มีข่าวว่าจะเอาชุด 23 ปีมา ดังนั้น ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพที่มี เรายังดีกว่าทีมอื่น” โค้ชเฮงกล่าวปิดท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image