รองอธิบดี ขบ.จี้ขนส่งจังหวัดพิจารณาลงโทษพักใช้-เพิกถอนใบขับขี่ ลุงใจร้อนใช้ไม้เท้าทุบกระจกรถ

ภาพเล็กนายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)

ความคืบหน้ากรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปลุงใจร้อน ใช้ไม้เท้าเหล็กทุบกระจกรถคู่กรณีหลังถูกบีบแตรใส่ เหตุเกิดทางคู่ขนานถนนเชียงใหม่-สันกำแพง ทางเข้าห้างฯพรอมเมนาดา ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้นายพรพรหม โทณวนิก อายุ 60 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ชายที่ขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 4 กม 3191 กรุงเทพมหานคร ที่ปรากฏอยู่ในคลิปได้เดินทางมามอบตัว และรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมระบุป่วยเป็นโรคเส้นเลือดแตก เป็นมา 5-6 ปีแล้ว และยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอโทษต่อคู่กรณี และบอกว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรณีผู้ขับรถมีจิตไม่ปกติหากแพทย์มีความเห็นออกมาว่ามีจิตไม่ปกติ หรือจิตบกพร่อง จะไม่สามารถทำใบขับขี่ได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีกรณีอีกอย่างหนึ่ง คือเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่มีใบขับขี่แล้ว กฎหมายกำหนดไว้ว่า หากผู้ขับรถมีพฤติกรรมที่เป็นภัยกับผู้ใช้ทาง นายทะเบียนก็สามารถที่จะเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากเพิกถอนแล้วก็ถือว่าคนนั้นขาดคุณสมบัติที่จะขอใบอนุญาตขับรถ

“กรณีเป็นภัยกับผู้ใช้ทาง นายทะเบียนสามารถใช้ดุลพินิจในการลงโทษพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้ ซึ่งตามกระบวนการหากมีการกระทำผิด 2-3 ครั้ง ทางนายทะเบียนสามารถใช้ดุลพินิจได้ ซึ่งนายทะเบียนดังกล่าวก็คือทางขนส่งจังหวัดนั้นๆ ซึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาต สามารถใช้ดุลพินิจในการพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตได้” นายเชิดชัยกล่าว

นายเชิดชัยกล่าวว่า สำหรับข้อมูลที่นำมาพิจารณาในการเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตนั้น เพียงปรากฏเป็นข่าวทางนายทะเบียนก็สามารถนำมาพิจารณาได้แล้ว แต่ก็ต้องไปพิจารณาย้อนหลังด้วยว่าคนนั้นเคยทำผิดมาก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่

Advertisement

“หากมีคนแจ้งหรือนายทะเบียนรู้เองว่ามีการกระทำผิดมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็สามารถลงโทษได้ และหากมีการบันทึกไว้ก็สามารถลงโทษได้เลย ปัจจุบันข้อมูลของขนส่งและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการเชื่อมโยงกันจึงยังเป็นปัญหาอยู่เกี่ยวกับข้อมูลการกระทำความผิดที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่ทราบว่าคนนั้นๆ เคยทำผิดหรือพ้นโทษมานานขนาดไหนแล้ว ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลให้งบประมาณมาเพื่อนำมาจัดทำระบบให้เชื่อมโยงกันระหว่างขนส่งทางบกและตำรวจแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อหาผู้เข้ามาดำเนินการ เมื่อติดตั้งระบบเสร็จแล้วหากผู้ขับรถกระทำความผิดในเรื่องอะไร ทางขนส่งก็จะทราบเช่นเดียวกัน” รองอธิบดีกรมการขนส่งกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image