วัยรุ่นสุดเซ็งเอาบิ๊กไบค์ 2 คันไปเปลี่ยนอะไหล่ร้านซ่อม จยย.หายจ้อย เจ้าของอู่อ้างตำรวจ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน นายพสิษฐ์ แดงมาศ อายุ 37 ปี อยู่ ถ.บางแสนสาย 4 เหนือ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.ณัฐวรรธน์ เพลินจิตร สารวัตรเวร สภ.เสม็ดว่า ตนเองได้นำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซูซูกิ สีดำ หมายเลขทะเบียน 7ส 3894 กรุงเทพฯ และซากรถรุ่นเดียวกันนำไปให้อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ไม่มีชื่อ อยู่ในซอยร้านจาน 2 บาท ตั้งอยู่หมู่ 7 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงได้ตามไปดูความคืบหน้าของการซ่อมรถจักรยานยนต์ ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันหายไป

จึงได้สอบถามข้อเท็จจริง เจ้าของอู่ซ่อมรถอ้างว่ามีตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองมายึดรถและยกขึ้นรถกระบะไป เนื่องจากเป็นรถผิดกฎหมาย จึงได้สอบถามชื่อตำรวจ และสถานีตำรวจที่ยกรถรถจักรยานยนต์ ปรากฏว่าเจ้าของอู่ซ่อมรถอ้างว่า ไม่รู้ตำรวจยศอะไร และไม่รู้ว่ามาจากสถานีตำรวจไหนอีกด้วย สอบถามเรื่องอื่นเจ้าของอู่ตอบไม่รู้เรื่องอย่างเดียว ซึ่งมีพิรุธ จึงได้ไปติดตามรถจักรยานยนต์ที่หายไป ที่ สภ.เมืองชลบุรี และ สภ.เสม็ด แต่ไม่พบจึงได้ตัดสินใจมาแจ้งความที่ สภ.เสม็ด เพื่อให้ตำรวจนำตัวเจ้าของอู่มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งตำรวจจะได้ออกหมายเรียกตัวเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์มาสอบสวนต่อไป

นายพสิษฐ์ แดงมาศ ผู้เสียหายกล่าวว่า รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันเป็นรถถูกต้องตามกฎหมาย มีทะเบียนรถและคู่มือรถ จึงได้เอามาซ่อมเพื่อต้องการเปลี่ยนอะไหลจากซากรถที่ซื้อมาประมาณ 3 หมื่นบาทไปใส่รถของตัวเอง เพราะเป็นรถรุ่นเดียวกัน ปรากฏว่าไปดูอีกทีรถจักรยานยนต์ 2 คันหายไปแล้ว ถามเจ้าของอู่ก็อ้างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองยกเอาไป พร้อมทั้งปฏิเสธไม่รู้เรื่องเมื่อถูกซักถาม เหมือนมีพิรุธไม่รู้ว่าเอารถของตนไปขายกินหรือเปล่า จึงได้มาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจนำตัวเจ้าของอู่ซ่อมรถมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image