เหลืออีกเพียง 15 วัน วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมจะเดินทางมาถึง สังคมเริ่มสัมผัสได้ในภาวะแปรเปลี่ยนเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
1 คือ พรรคภูมิใจไทย 1 คือ พรรคประชาธิปัตย์
ต้องยอมรับว่า 2 พรรคนี้ดำรงอยู่ในสถานะอันเป็น “ตัวแปร” ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ
เพียงแต่จะ “เลือก” อย่างไรเท่านั้น
เด่นชัดอย่างยิ่งว่าพรรคประชาธิปัตย์เลือกที่จะ “เอน” ไปทางพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเริ่ม “เอียง” หัวเรือออกจากพรรคพลังประชารัฐมากยิ่งขึ้น
แต่จะไปปักหลักอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จำเป็นต้องรอ
กระนั้น สังคมเริ่มสัมผัสได้ในรายละเอียดยิบย่อยอันสะท้อนความแปรเปลี่ยนซึ่งสำแดงออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย
สัญญาณนี้มีพรรคพลังประชารัฐเป็นจุดเริ่ม
แม้ว่าหัวเรือของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยต่อพรรคพลังประชารัฐจะตรงกันแต่เป้าหมายของแต่ละพรรคก็ไม่เหมือนกัน
พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าจะชนะพรรคพลังประชารัฐ
และชัยชนะนี้พรรคประชาธิปัตย์จะใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐยอมรับต่อการนำของพรรคประชาธิปัตย์
พรรคภูมิใจไทยก็มั่นใจว่าจะชนะพรรคพลังประชารัฐได้
กระนั้น พรรคภูมิใจไทยก็มองไม่เห็นโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะสามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทยและพันธมิตรได้
ตรงนี้แหละที่สะท้อนความต่างระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์
ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นด้วยว่าการร่วมเป็นรัฐบาลหลังการยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนธันวาคม 2551 นั้นพรรคภูมิใจไทยมีบทเรียนที่ไม่สู้ประทับใจนักกับพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อเทียบกับที่เคยร่วมตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
ภาพของพรรคภูมิใจไทยกับภาพของพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม มีโอกาสที่จะยืนอยู่คนละมุมอย่างเด่นชัด
เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์อาจทุลักทุเล
เพราะแม้จะมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติแต่ผลพวงนี้ยากเป็นอย่างยิ่งที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถเก็บเกี่ยวได้
แนวโน้มจะตกเป็นของพรรคอนาคตใหม่ หรือแม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยมากกว่า
กระนั้น ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยก็มีบทสรุป “ร่วม” ว่าโอกาสของพรรคพลังประชารัฐจะดำเนินไปในเชิงถดถอย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตั้งรับมากกว่าจะรุก
ภายหลังจากบทสรุปของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ เป็นไปได้ว่าจะสัมผัสได้จากพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา มากยิ่งขึ้น
การนับถอยหลังจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐในที่สุด
ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศหลักการเดียว
กัน นั่นก็คือ สกัด ขัดขวางพรรคเสียงข้างน้อยอาศัยประโยชน์จาก 250 ส.ว.
ปลายหอกพุ่งไปยังพรรคพลังประชารัฐ
เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์คิดจะหยิบชิ้นปลามันเอาเอง เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยยอมรับความเป็นจริงที่โอกาสซึ่งพรรคเพื่อไทยจะได้ชัยชนะอันดับ 1 ยังเป็นความเป็นไปได้
เพียง 2 สัปดาห์ คำตอบสุดท้ายจะปรากฏ