สถานีคิดเลขที่ 12 : ลึกลับใน‘เงา’มืด

น่าเห็นใจ “ฝ่ายความมั่นคง”
วันหยุดก็ไม่ได้หยุดพักผ่อนกับใครเขา
อย่างวันหยุดแรกของเทศกาลสงกรานต์ 12 เมษายน
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะ “โฆษกฝ่ายความมั่นคง” ต้องออกมา “สยบข่าวลือในโลกโซเชียล”
โดยยอมรับว่า หลังมีคำสั่งปรับย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ปรากฏความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล
เผยแพร่และส่งต่อภาพและข้อมูลอันเป็นเท็จ
โดยพยายามบิดเบือน เชื่อมโยงกล่าวหาให้ร้าย พาดพิง ไปยังบุคคลต่างๆ ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
อีกทั้งยังปล่อยข้อมูลเท็จ ยั่วยุ ปลุกปั่นให้สังคมแตกแยก
ปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายความมั่นคงกำลังติดตามและจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว
และขอเตือนให้หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย เข้าข่ายฐานความผิดนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สังคมกำลังประสบกับปัญหากับข่าวปลอม (Fake News) ขอให้ประชาชนหนักแน่น ใช้วิจารณญาณแยกแยะข่าวสารที่ได้รับ ไม่ตื่นตระหนก
ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ตรวจสอบและให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วนกับประชาชน

จากคำแถลงของ “โฆษกฝ่ายความมั่นคง” นี้
เชื่อว่าชาวบ้านและสื่อพร้อมร่วมมือ
แต่ก็หนักใจแทน “ฝ่ายความมั่นคง” ว่าจะหยุดข่าวปลอมได้หรือเปล่า
เพราะตั้งแต่มีคำสั่งปรับย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ออกมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาล รวมถึง “ฝ่ายความมั่นคง”
เคยให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้อะไรบ้าง
คำสั่งย้าย ย้าย และย้าย โดยพ่วงการรอ “ตรวจสอบ” เข้าไปอีกนั้น
นอกจาก ไม่มีเหตุผลอธิบายใดๆ แล้ว เมื่อสื่อไปถามคนที่เกี่ยวข้อง ทุกคนปิดปากเงียบ
บางคนถึงกับ “ป่วย”
เมื่อขาดข้อเท็จจริงเช่นนี้แล้วก็เป็นอย่างที่ “โฆษกฝ่ายความมั่นคง” บอกนั่นแหละ
ข่าวปลอมทะลัก

ต้องยอมรับว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เป็นนายตำรวจที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
จู่ๆ ถูกหักดิบเช่นนี้ ก็เป็นธรรมดาที่คนกระหายใคร่รู้
อย่าอึมครึม
อย่างการที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แล้วมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องถูกตรวจสอบนั้น
ก็น่าจะบอกสังคมได้ว่า สอบอะไร ใครเป็นคนสอบ ใช้เวลาเท่าไหร่
ซึ่งก็คงพอจะทำให้สังคมเข้าใจ “เบื้องต้น” ได้ระดับหนึ่ง
มิใช่เงียบหายจ้อย กลายเป็น “สิ่งลึกลับในเงามืด” อย่างเช่นทุกวันนี้
ความลึกลับนี้แหละ คือสารกระตุ้นให้ข่าวปลอมทะลักออกมา และนับวันจะมหัศจรรย์พันลึกขึ้นไปทุกที
จะยุติ “ข่าวลือ-ข่าวปลอม” ได้ มีทางเดียว นั่นก็คือ “ความจริงและข่าวจริง”

แต่ที่ผ่านมา สังคมก็ไม่ได้รับรู้อะไรเลย
นั่นแหละคือปัญหา
ฝ่ายความมั่นคง แทนที่จะเหน็ดเหนื่อย มาอ้อนวอนให้สังคมช่วยกันยุติข่าวปลอม
ลองนั่งล้อมวงถกกันดูว่า มีข้อเท็จจริง กรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มากหรือน้อยเพียงใดที่พอจะสามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้
ข้อเท็จจริงเท่านั้นที่จะสยบข่าวลือ ข่าวปลอมได้
“10 โฆษกฝ่ายความมั่นคง” ก็เอาไม่อยู่หรอก
สิ่งลึกลับใน “เงามืด” มันเย้ายวนใจกว่า

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image