นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ UOBAM เปิดเผยว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่มีแนวโน้มจะได้ข้อยุติในเร็วๆนี้ รวมถึงตัวเลขภาคการผลิตในประเทศต่างๆที่แสดงสัญญาณการชะลอตัวลง ส่งผลให้ธนาคารกลางในหลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรปรับลดลงทั่วโลก รวมทั้งปัจจัยต่างๆ เช่น Brexit และการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่ยืดเยื้อและยกระดับสู่การปิดสนามบินนานาชาติฮ่องกง ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยอาจจะมีความไม่ชัดเจนและเกิดความผันผวนในระยะสั้น
บลจ. ยูโอบี จึงแนะนำให้กระจายพอร์ตการลงทุน เพื่อบริหารความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน พร้อมเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มีความสม่ำเสมอจากการกระจายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั่วโลก เนื่องจากปัจจุบันการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงให้อัตราผลตอบแทนที่ดี มี Yield Spread (ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน) สูงกว่าตราสารหนี้ และมีค่าความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่ค่อนข้างต่ำ รวมถึงเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดจากการรับรู้รายได้จากค่าเช่าอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว และยังได้ปัจจัยบวกจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลดีต่อการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้า รวมถึงแนวโน้มการปล่อยเช่าที่อยู่อาศัยในสเกลขนาดใหญ่ (Multi Family) ในหลายๆ ภูมิภาคกำลังเติบโตได้ดี และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ (Senior House) เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ
นางสาวรัชดา กล่าวว่า ล่าสุด UOBAM จึงเปิดตัว “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล เรียลเอสเตท ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UGRE-UI)” กำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 22-26 สิงหาคมนี้ (เปิดขายครั้งเดียว) โดยกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี นับจากวันจดทะเบียนทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม (ทั้งนี้เป็นไปตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน) โดยเป็นกองทุนรวม Feeder Fund ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน UBS (Lux) Real Estate Funds Selection – Global (GREFS) ( I-96 EUR ACC) (กองทุนหลัก) จัดตั้งมาแล้วกว่า 10 ปี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 5,000 ล้านยูโร กองทุนหลักดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก จึงสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี
