สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา เสด็จทรงเปิดศูนย์เรียนรู้ฯ และติดตามโครงการกำลังใจฯ เรือนจำชั่วคราวแคน้อย จ.เพชรบูรณ์

สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา เสด็จทรงเปิดศูนย์เรียนรู้ฯ และติดตามโครงการกำลังใจฯ เรือนจำชั่วคราวแคน้อย จ.เพชรบูรณ์

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เพจเฟซบุ๊กโครงการกำลังใจ โพสต์ว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จไปทรงเปิดศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และติดตามการดำเนินงานตามโครงการกำลังใจฯ ณ เรือนจำชั่วคราวแคน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์

โดยมีผู้บริหารจาก  กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม หัวหน้าหน่วยงานในจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมรับเสด็จ สำหรับเรือนจำชั่วคราวแคน้อยเป็นเรือนจำชั่วคราวหญิงแห่งแรกและแห่งเดียวของกรมราชทัณฑ์ เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2544 มีภารกิจในด้านการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้ผู้ต้องขังหญิง และได้เริ่มดำเนินโครงการกำลังใจฯ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เพื่ออบรมและพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังโดยมุ่งเน้นการวางแผนชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและมีการฝึกอาชีพที่หลากหลายทั้งงานเกษตรกรรม งานบริการ เช่น ล้างรถ นวดแผนไทย เสริมสวย การทำอาหารและชงเครื่องดื่ม เป็นต้น  ซึ่งจากการฝึกอาชีพที่หลากหลาย การพัฒนาภายในเรือนจำชั่วคราวได้ต่อยอดเป็นศูนย์เรียนรู้ที่พร้อมจะเปิดให้บริการกับผู้ที่สนใจและประชาชนทั่วไป ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ได้อบรมผู้ต้องขังในโครงการกำลังใจ รุ่นที่ 13 ไปแล้ว และปัจจุบันเหลือผู้ต้องขัง จำนวน 30 คน โดยแบ่งเป็นผู้ต้องขังในโครงการกำลังใจ จำนวน 12 คน และผู้ต้องขังเรือนจำชั่วคราวแคน้อย จำนวน 18 คน

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงตัดแถบแพรเปิดศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเรือนจำชั่วคราวแคน้อย ทอดพระเนตรร้านแคน้อยฟาร์ม ร้านจำหน่ายอาหารครัวชวนชม จากนั้นเสด็จไปยังบริเวณนิทรรศการศูนย์เรียนรู้ฯ เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว  เชิงเกษตร ทอดพระเนตรโครงการสัตว์เลี้ยงบำบัด แปลงปลูกเห็ดเยื่อไผ่และเห็ดเผาะ โรงเรือนผักอินทรีย์  พื้นที่โครงการ 1 ไร่ 1 แสน และหมู่บ้านกำลังใจ โดยทรงปลูกต้นสะเดาหวานในบริเวณหมู่บ้านกำลังใจ จากนั้นเสด็จไปยังอาคารอเนกประสงค์เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการหม่อนไหม ข้าวอินทรีย์ การปลูกกัญชง และแก้มลิง และพระราชทานรางวัลเรือนจำในโครงการกำลังใจฯ ดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2563 พระราชทานของที่ระลึกผู้แทนผู้สนับสนุนโครงการกำลังใจฯ และพระราชทานถุงกำลังใจฯ ให้แก่คนต้นแบบโครงการกำลังใจฯ

จากนั้นทรงพูดคุย พบปะกับอดีตผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไป มีทักษะจากการฝึกอาชีพในเรือนจำชั่วคราวและประกอบอาชีพสุจริตที่หลากหลาย   และพระปฏิสันถารกับผู้ต้องขัง ความตอนหนึ่งว่า “ดีใจที่ได้มาเจอทุกคนในวันนี้ งานที่นี่อาจจะหนัก แต่ไม่แออัด หากในอนาคตสามารถฝึกวิชาชีพและนำไปประกอบอาชีพที่ดีได้ก็อาจจะมาเป็นบุคคลคนต้นแบบให้กับโครงการกำลังใจฯ ต่อไปได้ และดีใจที่คนต้นแบบมีชีวิตที่ดี เราควรสร้างกลุ่มเครือข่ายคนต้นแบบไว้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดี ๆ อาจสร้างเป็นกลุ่มอาชีพ เช่น อาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การค้าขาย รวมถึงงานบริการต่าง ๆ การพอเพียงไม่ได้หมายถึงว่าต้องอยู่อย่างลำบาก เงินก็ถือว่าสำคัญ แต่ไม่ได้สำคัญที่สุด อยู่ที่วิธีการหาเงิน และวิธีการใช้เงิน มีหลายทางให้เลือก ดีใจที่ได้ฟังความคิดเห็นจากตัวแทน ซึ่งทักษะอยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน ความสนใจ ความกระตือรือล้น และความตั้งใจของเราเองที่จะเรียนรู้ จะพยายามหาวิทยากรหรือคลิปสอนวิชาชีพ ความรู้ต่าง ๆ มาให้ ทุกคนสามารถทำได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน” #โครงการกำลังใจฯ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image