เลี้ยงลูกให้อารมณ์ดี สไตล์ “คุณแม่นางงาม” “นาตาลี-ลูกจัน”

เพราะเด็กที่อารมณ์ดี สุขภาพจิตดี ย่อมโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพจิตดีในอนาคตได้ แต่การจะมีอารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส ย่อมต้องเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ดี

ในโอกาสที่อองฟองต์ จับมือกับคอตตอน ยูเอสเอ จัดเวิร์กช็อปและปาร์ตี้สำหรับคุณหนู “อองฟองต์ เฮลโหล มารีน วิท มาญา” เปิดตัวคอลเลกชั่นซัมเมอร์ 2017 ในธีมสีสันแห่งท้องทะเล และแอมบาสเดอร์คนใหม่ “มาญา” ลูกสาวคุณแม่ นาตาลี เกลโบวา นางงามจักรวาลปี 2005 ณ เดอะ แบงคอก คลับ จึงชวนคุณแม่นางงาม พาลูกน้อยมาร่วมเดินแบบ พร้อมเผยเคล็ดลับการเลี้ยงลูกให้สดใส อารมณ์ดี

นาตาลีเผยว่า ตอนนี้ “มาญา” อายุ 10 เดือนครึ่ง เป็นเด็กอารมณ์ดี ยิ้มง่าย มีพัฒนาการเหมือนเด็กๆ ทั่วไป เริ่มหัดยืนและเกาะเดินด้วยตัวเอง สนใจกับสิ่งใหม่ๆ รอบตัว ซึ่งที่บ้านจะพูดคุยกับเขา 4 ภาษา ตามแต่ละครอบครัว คือ ไทยจากพี่เลี้ยง รัสเซีย สเปนจากคุณพ่อ และภาษาอังกฤษ ให้เขาได้เรียนรู้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งครอบครัวเราชอบที่จะพาเขาออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ รอบกรุงเทพฯ รวมถึงทั่วประเทศไทยทุกสุดสัปดาห์ มาญาชอบทะเล ชอบที่ได้เดินทาง ขึ้นเครื่องบิน การได้ไปที่ใหม่ๆ ก็จะช่วยเสริมประสบการณ์ให้เขา

ซึ่งในแต่ละวัน ภารกิจของคุณแม่นางงามจักรวาลคือคุณแม่ฟูลไทม์ ทำอาหารต่างๆ ให้ลูกทาน 3 มื้อ เน้นให้มีคุณค่าอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีน เนื้อสัตว์ ผัก ใช้ข้าวโอ๊ตบ้าง ข้าวสวยบ้างมาดัดแปลงเป็นอาหารแต่ละมื้อ และเล่านิทานให้คุณลูกฟังทั้งสเปน อังกฤษ รัสเซีย ทุกคืนก่อนนอน โดยที่นาตาลีจะไม่ให้ลูกได้จับโทรศัพท์ที่เปิดเครื่องอยู่เด็ดขาด เพราะไม่อยากให้เด็กได้รับสิ่งเหล่านี้แต่เล็ก

Advertisement

“โชคดีที่เขาเป็นเด็กอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย เวลาถ่ายแฟชั่น ถ่ายโฆษณาต่างๆ ก็จะอารมณ์ดีและมีความสุขกับสิ่งที่ทำเสมอ เราอยากให้เขาเป็นเด็กอารมณ์ดี พ่อและแม่ต้องคิดบวก สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ลูก ในช่วงวัยเด็กเวลาลูกร้องเราจะต้องรู้ว่าลูกต้องการอะไร และไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกเด็ดขาด ให้เขาได้รับแต่สิ่งดี” นาตาลีเผย

 

Natalie & Maya Workshop (2)

Advertisement

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ด้านคุณแม่ ลูกจัน-ดร.จันจิรา จันทร์โฉม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2002 ที่พาลูกชายน้องนันท์-นรานันท์ จันทร์กล่ำ วัย 3 ขวบ สุดอารมณ์ดีมาร่วมเดินแบบเผยว่า การจะให้ลูกอารมณ์ดี ครอบครัวพยายามเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ ไม่ตามตำรามาก อย่างให้นมแม่ถึง 2 ปี ให้ทานอาหารอย่างข้าว ผัก แทนกล้วยบดแบบไทย ใช้เหตุผล และฝึกความมั่นใจให้กับลูก ในขณะเดียวกันก็สอนให้ลูกพูดไทยให้ชัด อย่างคำควบกล้ำ และมีสัมมาคารวะแบบคนไทยแท้ ที่สำคัญคือเลี้ยงเขาให้เขารู้สึกว่าเรารักเขา ให้เวลา ไม่ปล่อย ให้เขาได้รู้เรื่องราวต่างๆ ยืดหยุ่น รวมถึงส่งเสริมทักษะเขาอย่างเรื่องดนตรี เพราะคุณพ่อเป็นวาทยกร เขาจึงชอบพากย์การ์ตูน รักดนตรี และทำให้เขาอารมณ์ดี

ปิดท้ายด้วย รศ.นาวาอากาศโท นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ ผู้เชี่ยวชาญภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ให้คำแนะนำว่า การเลี้ยงลูกให้มีความสุขนั้นพ่อแม่ต้องฝึกตัวเองไปพร้อมกับลูกโดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ต้องสดใส ไม่หงุดหงิดใส่ลูก และไม่สร้างลูกในอุดมคติของตัวเอง โดยหากอยากให้ลูกอารมณ์ดีก็ไม่ควรขัดใจลูกโดยไม่จำเป็น ในขวบปีแรก เราสามารถใช้คำว่า อย่า ห้าม ต้อง ไม่ กับลูกได้ เมื่อเริ่มอายุ 1-5 ขวบ จะเป็นวัยที่เมื่อพูดคำเหล่านี้แล้วต้องรู้จักเบี่ยงเบนความสนใจ ใช้คำสั่งให้น้อยลง และไม่อธิบายเยอะ และวัย 5 ขวบขึ้นไปจะเริ่มให้เหตุผลได้ แต่ก็ต้องไม่มากเกินไปจนลูกเบื่อ บางครั้งพ่อแม่หงุดหงิดต้องรู้จักคุมตัวเองให้ได้และไม่เป็นตัวอย่างไม่ดีแก่ลูก

“พ่อแม่บางคนมักมีทฤษฎีมาก แต่ปฏิบัติไม่ค่อยได้ มักใช้เหตุผลยากๆ กับลูกซึ่งเด็กวัยนี้จะไม่ค่อยเข้าใจ การเลี้ยงลูกต้องมีทั้งรัก และเข้าใจ รักเขาด้วยพื้นฐานของเขา อย่าให้ลูกเป็นเหมือนใคร พ่อแม่หลายคนส่งลูกเรียนพิเศษมากมาย ทำให้ลูกกดดัน และยังขาดเวลาครอบครัวไปด้วย แม้ว่าจะมีเวลาน้อยแต่พ่อแม่ก็ต้องใช้เวลาคุณภาพกับลูก ให้คิดเสมอว่าเลี้ยงลูกที่เป็นตัวเขาเอง ไม่ใช่ทดแทนสิ่งที่ตัวเองขาดไป” คุณหมอกล่าว

 

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
จันจิรา จันทร์โฉม และ น้องนันท์
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
รศ.นาวาอากาศโท นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ

เลี้ยงลูกแบบมีความสุข

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image