ทฤษฎีใหม่ “ไขปริศนา”ดาวอังคาร

NASA

ทีมนักวิจัยทางธรณีวิทยาและดาราศาสตร์ นำโดยศาสตราจารย์ซิลแวง บูเลย์ นักวิชาการด้านธรณีสัณฐานวิทยา จากมหาวิทยาลัย ปารีส์-ซูด์ เผยแพร่ทฤษฎีใหม่ออกมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่เชื่อว่า เป็นสาเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของพื้นผิวดาวอังคารครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลทำให้สภาพทางธรณีวิทยาของพื้นผิวดาวอังคารตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่อย่างที่พบเห็นในทุกวันนี้

ทีมศึกษาวิจัยดังกล่าวเชื่อว่าเมื่อประมาณ 3,500 ล้านปีที่ผ่านมา บนพื้นผิวดาวอังคารมีบริเวณที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟขนาดใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ซึ่งมีขนาดประมาณเท่าครึ่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส เมื่อภูเขาไฟเหล่านั้นเกิดระเบิดขึ้นต่อเนื่องกัน พ่นลาวาออกมาเป็นปริมาณมหาศาลชนิดที่น้ำหนักของมันทำให้เปลือกนอกสุดของดาวอังคารเคลื่อนที่ออกไปจากตำแหน่งเดิมเยอะมาก ขนาดทำให้บริเวณที่เป็นขั้่วเหนือและขั้วใต้ของดาวอังคารเคลื่อนตัวมาอยู่ในบริเวณตอนกลางของดวงดาวเลยทีเดียว

ประมาณกันว่าน้ำหนักของลาวาที่หลั่งไหลออกมาจากการระเบิดของบรรดาภูเขาไฟที่เชื่อว่าเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานไม่น้อยกว่า 200-300 ล้านปีเหล่านั้นมากถึงระดับหลายล้านล้านตัน ปริมาณมหาศาลถึงขนาดทำให้ชั้นเปลือกโลกด้านนอกสุด 2 ชั้นของดาวอังคารคือ ชั้นเปลือกนอก (ครัสต์) และชั้นแมนเทิล ที่ถัดลงมาขยับไหวและกระเพื่อมเป็นระลอกไปมา และยังส่งผลให้พื้นผิวของดาวอังคารเอียงตัวลงระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส ปริมาณของลาวาก่อให้เกิดพื้นที่ราบสูงบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรของดาวอังคารที่เรียกว่า “ธาร์ซิสโดม” ขนาดกว้างกว่า 5,000 ตารางกิโลเมตร และหนาถึง 12 กิโลเมตร

มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อปี 2010 ที่ระบุว่า ถ้าหากเรายก “ธาร์ซิสโดม” ออกจากดาวอังคาร จะส่งผลให้แกนสมมุติของดาวอังคารเปลี่ยนแปลงไปทันที

Advertisement

ศาสตราจารย์บูเลย์เปรียบเทียบว่า การเคลื่อนตัวที่เกิดขึ้นกับเปลือกโลกของดาวอังคารเมื่อ 3,500 ล้านปีก่อนนั้น หากเกิดขึ้นกับโลก ส่วนที่เป็นประเทศฝรั่งเศสในเวลานี้จะถูกขยับเลื่อนขึ้นไปอยู่บริเวณใกล้กับขั้วโลกเหนือ จนทุกคนในฝรั่งเศสสามารถเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้ และพื้นที่ที่เหมาะสมจะปลูกไร่องุ่นเพื่อทำไวน์จะกลายเป็นพื้นที่ของประเทศซูดานแทน

ทฤษฎีที่เผยแพร่ใหม่ในครั้งนี้สามารถใช้อธิบายได้เป็นอย่างดีว่า ทำไมพื้นผิวบริเวณตอนกลางบางส่วนของดาวอังคารถึงมีลักษณะเหมือนท้องน้ำของลำน้ำที่แห้งขอด ทั้งยังงอธิบายได้ว่าด้วยเหตุใดในเวลานี้พื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงกันถึงมีแหล่งน้ำแข็งใต้ดินขนาดมหึมา ทั้งๆ ที่แหล่งน้ำแข็งใต้ดินทำนองนี้ควรที่จะมีอยู่ในพื้นที่ซึ่งใกล้กับบริเวณขั้วโลกของดาวอังคารมากกว่า และนักวิชาการหลายคนก็เชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยมีแหล่งน้ำใต้ดินที่จับตัวเป็นน้ำแข็งอยู่บริเวณขั้วเหนือดาวอังคารจริง

แนวความคิดใหม่นี้ยังสามารถอธิบายได้ว่า เพราะเหตุใดดาวอังคารจึงที่ที่ราบสูงกว้างใหญ่อย่างธาร์ซิสโดม อยู่ใกล้กับบริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งศาสตราจารย์บูเลย์บอกว่าเป็นเส้นศูนย์สูตรใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากการระเบิดใหญ่ของภูเขาไฟดังกล่าวแล้ว

Advertisement

ทฤษฎีใหม่เป็นข้อสรุปจากการศึกษาวิจัยโดยใช้วิธีการสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ เพื่อจำลองและสังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นและผลลัพธ์รวมทั้งใช้วิธีการสังเกตุศึกษางานวิจัยที่ผ่านมาทั้งของทีมเองและของนักวิทยาศาสตร์อื่นๆ และแม้ว่าตามทฤษฎีใหม่นี้จะสามารถไขปริศนาลึกลับหลายอย่างของพื้นผิวดาวอังคารได้ แต่ศาสตราจารย์บูเลย์เองก็ยืนยันว่ายังคงมีคำถามอีกหลายอย่างที่จำเป็นต้องหาคำตอบกันต่อไป อาทิ การระเบิดใหญ่ของภูเขาไฟในครั้งนั้นนอกจากก่อการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นเหตุให้สนามแม่เหล็กของดาวอังคารหายไป? ทำให้แม่น้ำบนดาวอังคารหยุดไหลหรือไม่?

และสุดท้ายที่สำคัญกว่าก็คือ มันเป็นเหตุให้ดาวอังคารหลงเหลือบรรยากาศเพียงเบาบางอย่างที่เป็นอยู่หรือเปล่า?

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image