‘สพฐ.’ ประชุม ‘ผอ.ร.ร.ทั่วประเทศ’ เตรียมรับเปิดเทอม จี้ตรวจสอบงบประมาณให้รอบคอบ

‘สพฐ.’ ประชุม ‘ผอ.ร.ร.ทั่วประเทศ’ เตรียมรับเปิดเทอม ย้ำสร้างความประทับใจ จี้ตรวจสอบงบประมาณให้รอบคอบ

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2562 ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศประมาณ 50,000 คน ว่า การประชุมชี้แจงวันนี้ ตนเน้นย้ำผู้อำนวยการ สพท.และผู้อำนวยการโรงเรียน เรื่องแนวทางการปฏิบัติมากขึ้น เพราะ สพฐ.มีเรื่องสำคัญที่เป็นห่วงนักเรียน คือ เรื่องของความปลอดภัย อยากให้นักเรียนได้รับความปลอดภัยระหว่างอยู่ในโรงเรียน ตนจึงมอบหมายให้โรงเรียนตรวจสอบความปลอดภัย ตรวจสภาพอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ประตู โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์การเรียน เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น เป็นต้น และโรงเรียนจะต้องสร้างความประทับใจให้นักเรียนตั้งแต่วันแรก โรงเรียนต้องสะอาดสวยงาน ห้องเรียนมีความพร้อม และที่เน้นย้ำอีกเรื่องคืออยากให้สร้างความประทับใจให้กับประชาชน ผู้ปกครองโดยให้ทุกโรงเรียนจัดครูมายืนรับนักเรียนหน้าโรงเรียน และช่วงเปิดเรียนสัปดาห์แรกให้ผู้อำนวยการโรงเรียน ลงมายืนรับนักเรียนหน้าโรงเรียนด้วย เพราะ สพฐ.ต้องการให้ประชาชน หากมีคำถาม หรือข้อสงสัยอะไรสามารถถามผู้อำนวยการโรงเรียนได้โดยตรง

นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า เรื่องอาหารกลางวัน สพฐ.ได้เน้นย้ำเช่นกัน คือ ให้โรงเรียนตรวจสอบว่าได้รับงบอาหารกลางวันหรือยัง หากไม่ได้รับ ให้ทำหนังสือแจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่าถึงเวลาเปิดเทอมแล้ว ขอให้จัดสรรงบประมาณให้กับโรงเรียนด้วย พร้อมกับแจ้งข้อมูลว่าโรงเรียนมีจำนวนนักเรียนเท่าใด ต้องการงบฯ จำนวนเท่าใด และการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบพัสดุที่ออกมาใหม่ โดยกลุ่มตรวจสอบภายใน สพฐ. ได้เน้นย้ำข้อพึงระวังเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวัน เช่น หลักฐานการเบิกจ่ายไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และการจัดอาหารกลางวันต้องเป็นไปตามหลักโภชนาการที่ดีพอ เป็นต้น

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดสรรค่าพาหนะรับส่งนักเรียน กรณียุบรวมและเลิกโรงเรียนขนาดเล็กนั้น สพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 แล้ว โดยเกณฑ์การจัดสรร จะจัดสรรตามระยะทางให้กับโรงเรียนดังนี้ ระยะทาง 0.1 – 3 กิโลเมตร จัดสรรให้นักเรียนคนละ 10 บาท ระยะทาง 3.1-10 กิโลเมตร จัดสรรให้นักเรียน คนละ 15 บาท ระยะทาง 10.1 กิโลเมตรขึ้นไป จัดสรรให้นักเรียนคนละ 20 บาท และให้โรงเรียนตรวจสอบรถที่มาส่งด้วยว่าถ้ารถมาส่งนักเรียนแล้ว ยังมีนักเรียนเหลืออยู่ในรถหรือไม่ มีนักเรียนที่ห้อยโหนรถหรือไม่ หากพบต้องเข้าไปตักเตือนและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ทั้งนี้ให้ สพท.ที่ได้รับการจัดสรรงบฯ ดังกล่าว จัดสรรให้โรงเรียนทุกแห่ง พร้อมทั้งกำกับและติดตามให้ดำเนินงานเป็นไปด้วย ที่ต้องความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้รายงานผลการจัดสรรให้ สพฐ.ภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

“ส่วนงบฯ เรียนฟรี 15 ปี ที่สพฐ.จัดสรรไป 5 รายการ คือ ค่าจัดการเรียนการสอน ค่าหนังสือเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนต้องจัดสรรเงินให้ผู้ปกครองไปซื้อตามระเบียบไม่ให้ไปยุ่งหรือก้าวก่าย งบฯส่วนนี้ หากโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณเบื้องต้นยังไม่ครบตามจำนวนนักเรียนจริง ให้โรงเรียนยืมเงินจาก รายการค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มาใช้เป็นลำดับแรก และนำงบฯ จากรายการค่าจัดการเรียนการสอน มาใช้เป็นลำดับถัดไป เพื่อจัดสรรงบฯ ให้นักเรียนครบทุกคนก่อนเปิดภาคเรียน เมื่อโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมครบจำนวนนักเรียนแล้ว ให้ส่งใช้คืนรายการเดิม ส่วนโรงเรียนที่มีนักเรียนพักนอน เป็นโรงเรียนในพื้นที่สูง ภาคเหนือ หรือโรงเรียนสานฝันโรงเรียนกีฬา เป็นต้น ตนมอบหมายให้ผู้อำนวยการ สพท.ตรวจสอบความพร้อมของที่นอน อุปกรณ์ในการประกอบอาหาร และตรวจสอบดูเรื่องการจัดสรรงบฯ ด้วยว่าโรงเรียนได้รับงบฯ หรือไม่”นายบุญรักษ์ กล่าว

Advertisement

นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากการวางมาตรการเหล่านี้แล้ว สพฐ.จะมอบหมายให้ สพท.ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามการปฏิบัติของโรงเรียน โดยทุกโรงเรียนต้องพร้อมเปิดเทอมก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม ดังนั้นภายในวันที่ 14 พฤษภาคม ทุกอย่างต้องพร้อมหมด และสพฐ.จะส่งเจ้าหน้าที่ติดตามไปทุกเขตพื้นที่ เพื่อสุ่มตรวจโรงเรียนเขตละ 3 แห่ง ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ว่ามีความพร้อมหรือไม่ การเตรียมความพร้อมของครู มีความพร้อมที่ในการสอนหรือไม่ จัดตารางการสอนหรือยัง สพฐ.จะตรวจดูงานทุกอย่าง คาดว่าปีนี้จะดำเนินการไปอย่างราบรื่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image