ท่าน ‘ว.วชิรเมธี’ แนะเกษตรกรควร ลด เลิก การเผา กลับสู่ภูมิปัญญาโบราณดั้งเดิม “ทำปุ๋ยอินทรีย์” ลดการสร้างปัญหาหมอกควัน และปัญหาฝุ่น PM 2.5
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ จ.เชียงราย ได้กล่าวถึงปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ว่า ปัจจุบันถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยที่เกิดขึ้นได้ในทุกภูมิภาค โดยสาเหตุสำคัญมาจากฝีมือมนุษย์ ดังนั้น ทางออกของการแก้ไขปัญหา มนุษย์จะต้องเป็นผู้มาร่วมกันแก้ไข
“อย่างน้อยที่สุด ต้องช่วยกันเป็นหู เป็นตา อย่าปล่อยให้ใครมาเผาป่า ไม่ว่าจะโดยพลการ หรือ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจก็ตาม เพราะไม่ว่าจะทำแบบไหนก็ตาม ก็มีโอกาสทั้งนั้น ที่จะก่อให้เกิดไฟลามไปหาป่าของคนอื่น หรือป่าใหญ่ไพรหงส์ ซึ่งเป็นวนอุทยานแห่งชาติต่างๆ นานา ”
ที่สำคัญกว่านั้น กระบวนการเกษตรกรรมทั้งหมด เกษตรกรควรลด ละ เลิกการเผาและหันมาใช้กรรมวิธีแบบโบราณ แบบอินทรีย์ คือเปลี่ยนวัสดุเศษซากพืช เศษซากจากสวน จากไร่ จากนา เหล่านั้นแหละมาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ถ้าทำได้ดังนี้ปัญหาหมอกควัน ปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็จะลดน้อยถอยลง ที่สำคัญทั้งหมด สิ่งที่เราร่วมกันทำนี้ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อสุขภาพที่ดีของเราคนไทยทุกคน
นอกจากนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เปิดเผยถึงสถิติฝุ่น PM2.5 กทม.และภาคเหนือเกินมาตรฐาน จากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) พบว่าในปีนี้ 2564 ปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ยังเป็นสถานการณ์อันตรายต่อเนื่องที่ไม่ควรปล่อยวาง โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา กทม.มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 32 วัน
และเมื่อต้นฤดูหนาวธันวาคมที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 3 เมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก ขณะที่ฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดภาคเหนือเกินเกณฑ์มาตรฐานทุกปี จากสถิติ 4 ปีที่ผ่านมา พบว่า สถานการณ์ PM2.5 จะเกินค่ามาตรฐานระหว่างเดือน ก.พ. – เม.ย. มีจำนวนวันที่ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานมากถึง 112 วัน ลงลึกระดับพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบวันที่มีค่าฝุ่นสูงสุดถึง 366 มคก.ต่อ ลบ.ม. ซึ่งเกินค่ามาตรฐานถึง 7 เท่า
วิกฤตฝุ่นพิษเหล่านี้ส่งผลกระทบสุขภาพและกับชีวิตของประชาชน ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจแบบเรื้อรังและกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด โดยมีปัจจัยหลักมาจากการคมนาคม การก่อสร้างพัฒนาเมือง โรงงานอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง นำไปสู่การเกิดไฟป่าได้ในที่สุด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่แก้ไขไม่มีวันสิ้นสุด หากทุกคนไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
อย่างไรก็ตามกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนทุกคน ร่วมใจกัน “ลด ละ เลิกการเผาทุกชนิด” ที่ทุกคนสามารถลงมือทำ อาทิเช่น ไม่เผาวัชพืชที่เหลือจากการเกษตร ไม่เผาขยะ ตลอดจนใส่ใจการใช้พลังงานสะอาด หมั่นดูแลรักษารถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้เครื่องยนต์จากรถของคุณไม่ปล่อยควันพิษ หรือลดการใช้รถส่วนตัว หันมาใช้บริการรถขนส่งมวลชนมากขึ้น รวมถึงปลูกต้นไม้ในบริเวณที่อยู่อาศัย ช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษ เพียงเท่านี้คุณก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ควบคู่ไปกับสร้างวิถีใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
