ดิ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ‘เม vs โค’ กับเดิมพันรางวัลใหญ่

สุดสัปดาห์นี้ แฟนกีฬาบ้านเรามีการแข่งขันรายการใหญ่ให้ได้ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาไทย ในศึกกอล์ฟหญิง ดิ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน

รายการนี้เป็นทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์สุดท้ายของปี ซึ่งถือเป็นเวทีประลองเพื่อความเป็นหนึ่งสำหรับนักกอล์ฟมือพระกาฬของโลกหลายราย ในจำนวนนี้ย่อมมีชื่อของ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 2 ของโลกชาวไทยรวมอยู่ด้วย

ประการสำคัญที่สุดนั้น เนื่องด้วยวงการกอล์ฟหญิงมีรางวัลพิเศษชื่อ อันนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติกับ อันนิก้า ซอเรนสตัม ตำนานกอล์ฟชาวสวีดิช อดีตมือ 1 ของโลกและอดีตแชมป์เมเจอร์ 10 รายการ

รางวัลนี้เริ่มจัดครั้งแรกในปี 2014 มอบให้กับนักกอล์ฟที่ทำผลงานดีที่สุดในรายการเมเจอร์ในรอบปี บนเงื่อนไขที่ว่าผู้มีสิทธิรับรางวัลจะต้องได้แชมป์เมเจอร์อย่างน้อย 1 รายการในปีนั้นๆ โดยมีคะแนนสะสมให้เฉพาะผู้ที่ติดอันดับท็อป 10 แชมป์ได้ 60 คะแนน และลดหลั่นไปเรื่อยๆ จนถึงอันดับ 10 ได้ 2 คะแนน

Advertisement

สำหรับ 4 เมเจอร์ของปี 2016 มีแชมป์ไม่ซ้ำหน้าเลยสักคน เริ่มจาก เอเอ็นเอ อินไพเรชั่น (หรือชื่อเดิมคือ คราฟต์ นาบิสโก้ แชมเปี้ยนชิพ) ที่ ลิเดีย โค มือ 1 ของโลกชาวนิวซีแลนด์เชื้อสายเกาหลีได้แชมป์แบบส้มหล่นนิดๆ เนื่องจากโปรเมซึ่งนำมา 2 สโตรกขณะที่เหลือ 3 หลุม มาเสียโบกี้ติดๆ กัน 3 หลุมสุดท้าย จนหล่นไปจบอันดับ 4 ร่วมแทน นับเป็นแชมป์เมเจอร์ 2 รายการติดต่อกันของโค ต่อเนื่องมาจากเอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปีที่แล้ว

ต่อมาในรายการ วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ กลายเป็น บรู๊ก เฮนเดอร์สัน สาวน้อยวัย 18 ปีจากแคนาดา แรงขึ้นมาคว้าแชมป์แบบฮือฮาด้วยการดวลเพลย์ออฟชนะโค จนทะยานขึ้นเป็นมืออันดับ 2 ของโลก (ก่อนตกเป็นมือ 3 ในปัจจุบัน)

ส่วนศึก ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น แชมป์เป็นของ บริททานี่ แล็ง โปรสาวชาวอเมริกันวัย 31 ปี ซึ่งนี่เป็นแชมป์แอลพีจีเอทัวร์รายการที่ 2 ในชีวิตของเธอที่ห่างจากแชมป์แรกถึง 4 ปี

Advertisement

และสุดท้ายในรายการ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น ที่ประเทศอังกฤษ โปรเมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกไม่ว่าชายหรือหญิงที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ไปครอง ด้วยผลงาน 16 อันเดอร์พาร์

จนถึงขณะนี้ โคมีคะแนนสะสมลุ้นรางวัลอันนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด นำเป็นอันดับ 1 ที่ 102 คะแนน (จากผลงาน 4 รายการ ชนะเลิศ, อันดับ 2, อันดับ 3 ร่วม, อันดับ 40 ร่วมตามลำดับ) แต่ก็นำโปรเมแค่เพียง 10 แต้มเท่านั้น (โปรเมทำผลงานอันดับ 4, อันดับ 3, อันดับ 17 ร่วม, ชนะเลิศ)

ถือเป็นการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ที่สูสีเข้มข้นที่สุดตั้งแต่เริ่มแจกรางวัลนี้มา เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการเป็นอย่างมาก เนื่องจากครั้งแรกในปี 2014 มิเชล วี โปรสาวคนสวยชาวอเมริกัน คว้ารางวัลไปครอง แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากศึกเอวิยองตั้งแต่รอบแรก เพราะตุนคะแนนเอาไว้มาก ขณะที่ปีที่แล้ว รางวัลนี้เป็นของ ปาร์ก อินบี อดีตมือ 1 ของโลกชาวเกาหลีซึ่งจบอันดับ 8 ร่วมที่ฝรั่งเศส แบบไม่ยากเย็นนักเช่นกัน

สำหรับเฮนเดอร์สันเรียกได้ว่าแทบจะหมดลุ้นไปแล้ว เนื่องจากมีคะแนนสะสมเป็นอันดับ 3 รวม 62 คะแนน (จากผลงาน อันดับ 10 ร่วม, ชนะเลิศ, อันดับ 64, อันดับ 50 ร่วม) และแล็งที่มี 60 คะแนน (ไม่ผ่านตัดตัว, อันดับ 39 ร่วม, ชนะเลิศ, อันดับ 60 ร่วม) ไล่ยังไงก็ไม่ทันโคแล้วแน่นอน

ในแง่ประสบการณ์ถือว่าโคได้เปรียบคู่แข่งสำคัญอย่างเม เพราะปีที่แล้วคว้าแชมป์เมเจอร์หนแรกในชีวิตจากรายการนี้ แถมประวัติการเล่น 2 ครั้งก่อนหน้านั้นก็ติดอันดับท็อปเทนทั้งสิ้น โดยในปี 2013 คว้าอันดับ 2 ในฐานะมือสมัครเล่น ส่วนปีที่แล้ว จบอันดับ 8 ร่วม ขณะที่โปรเมเพิ่งแข่งขันเอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ หนแรกเมื่อปีที่แล้ว จบที่อันดับ 46 ร่วม

กระนั้น ชั่วโมงนี้ใครก็มองข้ามโปรเมไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะเอาเข้าจริงๆ ปีที่แล้วนักกอล์ฟสาวไทยวัย 20 ปี ยังไม่ผ่านตัดตัวถึง 10 รายการรวดอยู่แหม็บๆ แต่พอเริ่มปลดล็อกคว้าแชมป์แรกในศึก โยโกฮาม่า ไทร์ คลาสสิก เมื่อเดือนพฤษภาคม ก็เริ่มสั่งสมความมั่นใจ จนทยอยคว้าแชมป์ติดๆ กัน ถึงขณะนี้คว้าไปแล้ว 5 รายการ สูงที่สุดของแอลพีจีเอทัวร์ในฤดูกาลนี้

หากโปรเมทำผลงานได้ดีเกินหน้าโคในศึกเอวิยอง นอกจากจะช่วยให้เธอคว้ารางวัลอันนิกา เมเจอร์ อวอร์ดแล้ว ยังช่วยให้มีลุ้นอีก 2 รางวัลใหญ่ช่วงท้ายปีอย่าง นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งปัจจุบันมีแต้มตามหลังโคแค่เพียง 5 คะแนน รวมทั้งคะแนนสะสม เรซ ทู ซีเอ็มอี โกล๊บ ซึ่งจะมอบโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (35 ล้านบาท) ให้นักกอล์ฟที่ทำผลงานดีที่สุดในรอบปีสิ้นสุดที่รายการ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ด้วย

นอกจากโปรเมแล้ว ยังมีสาวไทยอีกหลายรายที่ได้สิทธิร่วมแข่งขันรายการนี้ ไม่ว่าจะเป็น “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล, “โปรเนท” นนทยา ศรีสว่าง หรือ “โปรปลาย” พัชรจุฑา คงกระพันธ์

เนื่องด้วยแข่งขันที่ประเทศฝรั่งเศส เวลาถ่ายทอดจึงไม่โหดเท่าตอนแข่งที่ฝั่งอเมริกา

แฟนกอล์ฟชาวไทยไม่ต้องอดนอนมากก็พอจะลุ้นกันได้สบายๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image