อดีตผอ.หอศิลป์วอนรัฐอย่าพา ‘ทวนเข็มนาฬิกา’ ชวนลงชื่อค้านกทม.ยึดคืน

กรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครไปบริหารเอง โดยยืนยันว่าสามารถกระทำได้อย่างโปร่งใส กระทั่งเกิดกระแสคัดค้านจากศิลปิน และคนหลากหลายวงการ อีกทั้งมีการรณรงค์เข้าชื่อคัดค้านผ่านเว็บไซต์ change.org อีกทั้งเตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางลักขณา คุณาวิชยานนท์ อดีตผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า หอศิลป์ กทม.ได้รับการจัดตั้งและสนับสนุนจาก กทม. โดยมอบสิทธิบริหารให้กับมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เป็นหอศิลป์ของประชาชน สร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมทุกกลุ่มเท่าที่จะสามารถไปถึง ให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ โดยการออกแบบร่วมกัน ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างดีมาตลอด รัฐก็ตระหนักว่าเป็นภาระหน้าที่ของรัฐในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางภูมิปัญญา แม้อาจไม่สมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง แต่ยังเป็นโมเดลที่เปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม และขับเคลื่อนไปกับพลวัตของยุคใหม่ได้มากกว่าระบบราชการ เครือข่ายศิลปินและภาคประชาสังคมเคลื่อนไปข้างหน้ามากแล้ว ขออย่าพาเดินทวนเข็มนาฬิกากลับไป

นอกจากนี้ ในตอนท้าย นางลักขณา ได้เชิญชวนผู้มีความเห็นตรงกันร่วมลงชื่อค้านผ่านเว็บไซต์ change.org อีกด้วย

ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

Advertisement

“ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร bacc ได้บริหารงานในลักษณะความร่วมมือ แบบ public + private (non-profit) + people มาตลอด เป็นประชารัฐมาก่อนใครจะใช้คำนี้ด้วยซ้ำ เป็นการจัดตั้งและสนับสนุนของ กทม. มอบสิทธิบริหารให้กับ มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เป็นหอศิลปของประชาชน สร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคมทุกกลุ่มเท่าที่จะสามารถไปถึง ให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ โดยการออกแบบร่วมกัน

เป็นแหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ที่เข้าถึงได้ง่ายใจกลางเมือง เป็นที่แสดงออกและแลกเปลี่ยนทางความคิดในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ ความถูกต้อง ชอบธรรม เท่าเทียม ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ทางศิลปะ และงานศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบหลากหลายเพื่อขับเคลื่อนสังคมที่ทุกคนอยากเห็นไปด้วยกัน โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมเป็นที่ตั้ง สร้างภูมิปัญญาและสุนทรียะใหม่ๆ ต่อยอดจากรากฐานทางวัฒนธรรมเดิมที่น่าภาคภูมิใจอยู่แล้วให้เฟื่องฟูยิ่งๆ ขึ้นไป

ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างดีมาตลอด รัฐก็ตระหนักว่าเป็นภาระหน้าที่ของรัฐในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางภูมิปัญญาของคน ซึ่งเป็น soft power ที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ทุกที่ที่เจริญแล้วเค้าก็ทำกัน มีเอกชนเห็นด้วยก็มาร่วมสนับสนุนเป็นโครงการไป มีผู้ชมสนใจมาร่วมงาน ร่วมกิจกรรมกันอุ่นหนาฝาคั่ง จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปี จำนวนกิจกรรมก็อัดแน่นหลากหลาย มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศสนใจมาศึกษาโมเดล การบริหาร จัดการแบบนี้ที่ bacc อย่างต่อเนื่องตลอดมา ด้วยว่าน่าจะเป็นหนึ่งในโมเดลซึ่งจะตอบโจทย์ พลวัตที่เคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วของยุคสมัยใหม่ ที่ต้องการองค์กรที่มีการบริหารจัดการ จากผู้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องศิลปวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เปิดกว้าง คล่องตัวในเรื่องการจัดกิจกรรม จัดสรรงบประมาณให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง เปิดโอกาสให้คนเก่งรู้จริงเข้ามาทำงานอย่างต่อเนื่อง และสร้างบุคลากรในสายงานนี้ สำหรับองค์กรในลักษณะนี้ทีจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากมายต่อไปในอนาคตและเป็นสิ่งที่ขาดแคลนอยู่มาก

Advertisement

อีกทั้งโลกข้างหน้าก็เป็นโลกของศิลปและวัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ

แน่นอนว่าที่ผ่านมาการบริหารจัดการของ bacc อาจจะไม่สมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง มีสิ่งทียังต้องปรับปรุงแก้ไขอีกมาก แต่ก็ยังเป็นโมเดลที่เปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม ตรวจสอบ ติติง สนับสนุนและขับเคลื่อนไปกับพลวัตของยุคใหม่ได้มากกว่าระบบราชการ

เครือข่ายศิลปินและภาคประชาสังคมเคลื่อนไปข้างหน้ามากแล้ว ได้โปรดอย่าพาเราเดินทวนเข็มนาฬิกากลับไปเลย ถ้าคุณจะหยุดนาฬิกาของตัวเองไว้ เราจะไม่ยุ่ง แม้จะเจ็บปวดกับมันมากแค่ไหน แต่กรุณาช่วยถอยห่างจากนาฬิกาของภาคประชาชน

ใครคิดว่า กทม. ควรทบทวนแนวคิดในข่าวที่เสนอออกมา ช่วยกันลงชื่อแสดงเจตจำนงใน change.org ตามลิงก์ข้างล่างด้วยนะคะ

#yourbacc #freebacc #ourbacc”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image