สถานีคิดเลขที่12 : ดูดส.ส.-ร้ายกว่าที่คิด : จำลอง ดอกปิก

ประเด็นดูด ส.ส.กลายเป็นหนังยาว ซีรีส์การเมือง

ที่จริงเรื่องย้ายพรรค เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีเลือกตั้ง

แต่การไม่คำนึงถึงวิธีการ ได้มาซึ่งอดีตผู้แทนมาอยู่ในสังกัดต่างหาก ถูกวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง ตั้งคำถามอยู่ในขณะนี้ ว่าชอบธรรมหรือไม่

ยิ่งมีกระแสข่าว สารพัดสูตร ยื่นข้อเสนอ ออฟเฟอร์เงินทอง จัดงบประมาณ ยกคดีความ บีบย้ายซบ แลกกับการหลุดพ้นชนักปักหลัง ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงว่า ไม่ใช่การย้ายธรรมดาที่เกิดขึ้นทั่วไป

Advertisement

ในฤดูกาลเลือกตั้ง

แต่ออกไปในทางผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม การปักหลักอยู่พรรคเดิม หรือย้ายพรรค มิได้เป็นหลักประกัน ว่าจะได้รับเลือกตั้ง

Advertisement

ในอดีต ย้ายแล้วตกยกจังหวัด 8 คน ดับทั้งมุ้งทั้งที่ใหญ่คับจังหวัด ก็มีปรากฏให้เห็น

เนื่องจาก ผู้ตัดสินใจ ใครจะได้เป็น ส.ส. ไม่ใช่พรรคการเมือง แต่คือประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง

ในยุคดิจิทัลที่ประชาชนเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา

ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ทุกอย่างอยู่ในสายตา ในความรับรู้ประชาชน

หากการย้ายพรรค หรือมีเรื่องใดไม่ชอบมาพากล น่าเชื่อได้ว่า ประชาชนจะใช้ข้อมูลนี้ ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ว่าสมควรไว้วางใจ เลือกเป็นผู้แทนหรือไม่

ฉะนั้น แม้การย้ายพรรคโดยมิชอบ จะไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ เนื่องจากพิสูจน์ยาก

ต้องปล่อยลอยนวล

แต่ก็ยังมีมาตรการลงโทษเด็ดขาดทางสังคม ที่ผู้สมัคร ส.ส.หวาดกลัวที่สุด

กลัวยิ่งกว่ากฎหมายด้วยซ้ำ

เนื่องจากลอยนวล หนีการถูกกาบัตรตัดสินไม่ได้

ด้วยเหตุนี้กระมัง ใครต่อใครถึงได้ออกมาปฏิเสธพัลวัน ไม่มีอามิสสินจ้าง เงื่อนไขแลกเปลี่ยนต่อรอง คดีความอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นการย้ายโดยสมัครใจของคนที่รักใคร่ผูกพัน ทำงานร่วมกันมาก่อน

แต่เชื่อเถิดว่า ถึงจะชี้แจง กล่าวอ้างอย่างไร

ประชาชนตัดสินได้ว่าจริง หรือเท็จ

ปมประเด็นดูด ส.ส.ยังก่อปัญหาให้คิดต่อ

ไม่ได้หยุดอยู่แค่ การพังทลายกำแพงความถูกต้องอย่างเดียว

แต่ยังเย้ยหยัน ท้าทายกฎหมาย

มีบังคับใช้ก็เหมือนไม่มี

การดูด ส.ส.เข้าพรรคนั้น กลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองที่ต้องการดูด ได้แบ่งเกรด ส.ส.กลุ่มเป้าหมาย ออกเป็นอย่างน้อย 3 เกรด คือ เอ บี ซี

สนนราคาค่าตัวจัดโปรโมชั่นให้ตามฐานคะแนนนิยมในเขต/พื้นที่เลือกตั้ง ที่อดีต ส.ส.ผู้นั้นเคยชนะเลือกตั้งมาก่อน เพื่อวางตัวเป็นผู้สมัครหลักของพรรค สู้ศึกเลือกตั้งในปีหน้า

นั่นย่อมหมายถึงว่ามีการล็อกตัวผู้สมัครเอาไว้ชัดเจน ในแต่ละเขต

ไม่ได้เกรดเอ ก็ส่งบี ไม่ได้บีก็ส่งผู้สมัครเกรดซี

ทุกเขต ไม่ว่าส่งเกรดใด ล็อกตัวผู้สมัครทั้งหมด

แต่โดยที่การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ กติกาใหม่ กำหนดให้พรรคการเมืองต้องทำไพรมารีโหวต
เลือกตั้งผู้สมัครเบื้องต้น

เจตนารมณ์กฎหมายคือ ต้องการให้พรรคการเมืองหลุดพ้นจากการควบคุมของนายทุน บุคคลผู้มีอิทธิพลครอบงำพรรค โดยให้ประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคเข้ามามีส่วนร่วมเฟ้นผู้สมัครมากขึ้น

แต่ภาพที่ปรากฏในวันนี้ มีการล็อกตัวผู้สมัครเอาไว้ตั้งแต่ต้นจากส่วนกลาง

นั่นเท่ากับว่า ระบบไพรมารีโหวต ไม่มีความหมายอย่างสิ้นเชิง ล้มเหลวตั้งแต่ไม่ทันเริ่มต้นใช้ครั้งแรก

เป็นแค่พิธีกรรม มิได้ช่วยให้เกิดการปฏิรูปการเมือง พรรคการเมืองเป็นของประชาชน มีส่วน
ร่วมตัดสินใจแต่ต้นแต่อย่างใดเลย

หากแต่เป็นกระบวนการฟอกถ่าน ฟอกผู้สมัครที่ล็อกไว้ ให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

ซ้ำร้ายหนักไปยิ่งกว่านั้น ก็คือผู้ล็อกตัวผู้สมัคร ทำลายระบบไพรมารีโหวต ล้วนแต่เป็นกลุ่มการเมือง เป็นพรรคการเมืองเครือข่ายศูนย์ของกลางอำนาจรัฐ

ศูนย์กลางคุมอำนาจรัฐแห่งเดียวกัน ที่เป็นต้นธาร ให้กำเนิดกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
ผู้ยกร่างกฎหมายแม่บทการปกครองประเทศสูงสุด ยกร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมือง ที่มีบทบัญญัติเขียนบังคับให้ทำไพรมารีโหวต

เขียนด้วยมือ ลบด้วยมือ?

มนุษย์ถ้ำ

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image