“หมวดเจี๊ยบ” แนะ รบ.-บิ๊กตู่ศึกษาแนวทางแก้ปมถูกตัด “จีเอสพี” ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออก

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรประเมินความเสียหายจากการที่สหรัฐตัดสิทธิพิเศษทางภาษีสินค้า หรือจีเอสพี (GSP) ของไทยต่ำเกินไป เพราะการคำนวณความเสียหายเรื่องนี้จะดูแค่ตัวเลขภาษี 1,500 -1,600 ล้านบาท ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายเท่านั้น แต่ต้องคำนวณค่าเสียโอกาสจากการที่สินค้าไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางการค้าด้วย ซึ่งรวมๆแล้ว อาจจะมากกว่า 40,000 ล้านบาท และในการเจรจากับสหรัฐเพื่ออุทธรณ์เรื่องนี้

“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรดูโมเดลที่ประเทศอื่นใช้แก้ปัญหา โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งเขาใช้วิธีชี้ให้สหรัฐเห็นข้อเสียที่จะเกิดกับผลประโยชน์ของสหรัฐเองจากการตัดจีเอสพีประเทศกำลังพัฒนา เพราะจะทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันซื้อของในราคาแพงขึ้น และจะทำให้ต้นทุนการผลิตของสินค้าสหรัฐสูงขึ้นด้วย และจะทำให้ผู้ประกอบการจีนได้ประโยชน์ นอกจากนี้ อินเดียยังเพิ่มกำแพงภาษีเพื่อตอบโต้สหรัฐด้วย ซึ่งถ้ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์สามารถชี้ให้สหรัฐเห็นข้อเสียที่จะเกิดขึ้นต่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเอง ก็อาจทำให้สหรัฐมีท่าทีที่ผ่อนคลายลงได้ โดยที่ไทยไม่ต้องเอาผลประโยชน์ของชาติด้านอื่นๆ ไปแลก ซึ่งนี่คือท่าทีที่ถูกต้องในการเจรจาต่อรองทางการค้าที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ควรดูเป็นตัวอย่าง อย่าใช้อารมณ์ตัดสินโดยใช้ถ้อยคำรุนแรง เพราะนอกจากจะไม่แก้ปัญหาแล้ว ยังจะเป็นการสร้างเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคในการเจรจา ทั้งยังอาจลุกลามไปส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ระหว่างไทยและสหรัฐด้วย” ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว

นอกจากนี้ ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า รัฐบาลควรพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย ให้สามารถแข่งขันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาจีเอสพี และต้องเปิดตลาดการค้ากับประเทศใหม่ๆ บ้าง จะได้ไม่ถูกต่างชาติใช้เรื่องนี้มาบีบหรือข่มเหง เพราะในอนาคตสหรัฐฯอาจล้มเลิกการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านโครงการจีเอสพี เพราะมีแรงกดดันจากการเมืองภายในสหรัฐเช่นกันให้ยุติการให้จีเอสพีต่างชาติ และที่สำคัญ อยากถามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ว่าเตรียมรับมือแล้วหรือยัง กับการถูกตัดจีเอสพีระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้น และจะทำให้มูลค่าการส่งออกไทยติดลบหนักกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของจีดีพี (GDP) ที่เคยคาดการณ์ไว้

“ความผิดพลาดของรัฐบาลประยุทธ์ ได้ส่งผลให้ไทยเสียประโยชน์ทางการค้าไปแล้ว 40,000 ล้านบาท แต่ยังเหลือผลประโยชน์ทางการค้าของไทยที่มีกับสหรัฐอีกราว 900,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลประยุทธ์ต้องใช้สติปัญญาในการปกป้อง หากท่านคิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรลาออกไป แล้วหลีกทางให้แคนดิเดตนายกฯ ท่านอื่นเข้ามาแก้ปีญหาแทนโดยด่วน ที่สำคัญ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ควรบอกคนไทยให้ชัดเจนว่า ผลกระทบจากการโดนสหรัฐตัดจีเอสพี จะส่งผลกระทบต่อตัวเลขจีดีพี และเป้าหมายการส่งออกที่เคยคาดการณ์ไว้อย่างไร เพื่อให้นักลงทุนและประชาชนรู้ตัวล่วงหน้าจะได้ปรับตัวและวางแผนชีวิตได้ทัน” ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image