ออกซ์ฟอร์ดเริ่มทดสอบใช้ยาต้านมาลาเรียป้องกัน ‘โควิด-19’

อ๊อกซ์ฟอร์ด เริ่มทดสอบใช้ยาต้านมาลาเรีย ป้องกัน “โควิด-19”
REUTERS/Craig Lassig/File Photo

ออกซ์ฟอร์ดเริ่มทดสอบใช้ยาต้านมาลาเรียป้องกัน “โควิด-19”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษ เริ่มการเข้าร่วมทดสอบยาต้านมาลาเรีย 2 ตัว ว่าสามารถใช้ป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งรวมทั้งยาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กินเข้าไปด้วย

โดยการทดลองดังกล่าว เป็นสวนหนึ่งของการทดลองของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่ชื่อว่า “คอปคอฟ” ที่จะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่แนวหน้ากว่า 40,000 คน ทั้งจากยุโรป แอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ เพื่อดูว่ายาต้านมาลาเรีย อย่าง คลอโรควิน และไฮโดรไซคลอโรควิน จะมีความสามารถในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้หรือไม่

ยาดังกล่าวกลายเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น หลังจากเมื่อก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่ากินยาไฮโดรไซคลอโรควิน เข้าไป เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส แม้ว่าจะมีคำเตือนจากแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาดังกล่าว

รายงานแจ้งว่า การทดลองดังกล่าว นำโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยวิจัยโรคเขตร้อนมหิดล-ออกซ์ฟอร์ด (เอ็มโออาร์ยู) ในกรุงเทพฯ ที่จะเปิดให้เจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลใน ไบรตัน และออกซ์ฟอร์ด เข้ามีส่วนร่วมในวันที่ 21 พฤษภาคม รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนที่มีความใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ป่วยหรือต้องสงสัยว่าป่วยโควิด-19

Advertisement

ศาสตาจารย์นิโคลัส ไวท์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในการศึกษา ซึ่งอยู่ที่เอ็มโออาร์ยู กล่าวว่า “เรายังไม่รู้จริงๆ ว่าคลอโรควิน หรือไฮโดรไซคลอโรควิน เป็นประโยชน์หรืออันตรายกับ โควิด-19 หนทางที่ดีที่สุดในการหาคำตอบคือ การสุ่มทำวิจัยทางคลินิกว่ามันมีผลต่อการป้องกันโควิด-19 หรือไม่”

ข่าวระบุว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมในอังกฤษ ยุโรป และแอฟริกา จะได้รับยาไฮโดรไซคลอโรควิน หรือยาหลอก อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนในเอเชีย จะได้รับยาคลอโรควิน หรือยาหลอก อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเวลา 3 เดือนเช่นกัน

โดยเอ็มโออาร์ยูระบุว่า คาดว่าจะทดลองครบทั้ง 25 เขตพื้นที่ในอังกฤษได้ภายในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และมีแผนที่จะขยายพื้นที่การทดลองออกไปในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อิตาลี โปรตุเกส แอฟริกา และอเมริกาใต้ และคาดว่าจะได้รู้ผลในสิ้นปีนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image