“เอกชน” วอน 2 ฝ่ายอย่าใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาม็อบ ไม่งั้นกระทบศก.หนัก

“เอกชน” อย่าใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาประท้วง ไม่เช่นนั้นกระทบศก.หนัก

นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบและก่อสร้างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของนักศึกษาที่เริ่มส่อเค้าขยายตัวต่อเนื่องทั่วประเทศนั้น อยากให้รัฐบาลประคองสถานการณ์และแก้ไขปัญหาให้ดี และทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งกันและกันอย่างเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเคยมีบทเรียนจากเหตุการณ์ม็อบเหลืองม็อบแดงมาแล้ว จึงไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องแก้ในส่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ขัดข้อง และต้องไม่แตะประเด็นที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะประเด็นที่มีความอ่อนไหวต่อจิตใจของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ แต่ควรต้องแก้ประเด็นความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะประเด็นทางการเมือง เช่น การแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) การลงคะแนนเสียง ซึ่งบางคนมองว่าโหวต 1 ได้เสียงไปทั้งพรรค ทั้งส.ส.นั้นอาจไม่เป็นธรรม ดังนั้นเรื่องนี้ต้องมานั่งถกกันอย่างมีเหตุผลว่าอะไรเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ

นายอธิปกล่าวว่า ส่วนม็อบนั้นก็อยากจะบอกว่าอย่าสร้างความปั่นป่วนและทำให้เรื่องบานปลาย และเอาเรื่องที่คิดว่าจะแก้ไขรัฐบาลแก้ไขได้ให้รัฐบาล ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะเข้าใจ และเมื่อรัฐบาลรับไปแล้วก็จะต้องยุติทันทีไม่ทำสิ่งที่อาจจะไม่เจตนาแต่อาจไปกระทบประเทศโดยอัตโนมัติ เพราะหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศไม่มั่นใจว่าสุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่ จึงต้องชะลอการลงทุนออกไป หรือรอดูท่าทีหรือรอดูสถานการณ์ก่อน

“เราเชื่อว่านักศึกษามีเจตนาปกติ และไม่อยากเห็นว่าทำไปทำมาแล้ว สุดท้ายกระทบกับภาพรวมประเทศ ขณะที่รัฐบาลต้องใจกว้างและรับฟังทุกประเด็นแล้วนำมาสรุปให้ตรงกันให้ได้ อย่าได้คืบแล้วเอาศอก ไม่งั้นปัญหาก็จะไม่จบ ภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือทุกรูปแบบ หากจะให้ช่วยเหลืออะไร อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วย หรือจะให้ภาคเอกชนช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆเราก็ยินดีให้ความร่วมมือ”นายอธิปกล่าวและว่า รู้สึกเป็นห่วงว่าเรื่องจะบานปลาย หากรัฐบาลไม่มีความชัดเจน ก็อาจจะมีโรคแทรกซ้อน หรือมีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามาเข้ามาแทรกแซง รวมทั้งบีบให้มีการยุบสภาก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่าหากยุบสภาไปโดยที่ไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไร้ประโยชน์ เลือกตั้งมาแล้วก็เหมือนเดิม เปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ดังนั้นอยากให้ฝ่ายตรงข้ามมองให้ดี อย่าเอาความสะใจเพราะจะกระทบกับภาพรวมของประเทศ ที่ขณะนี้เศรษฐกิจย่ำแย่จากวิกฤตโควิด และหากมีเหตุการณ์บานปลายมาซ้ำเติม ก็จะยิ่งทับถม สิ่งที่แย่อยู่แล้วก็จะยิ่งแย่หนัก ยากที่จะกู้กลับคืนมา

“หากยุบสภาในตอนนี้ก็เสียเปล่าไร้ซึ่งประโยชน์ เพราะไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้ เพราะยุบแล้วรัฐบาลรักษาการณ์ก็ทำอะไรได้ไม่มาก และเลือกตั้งมาใหม่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”นายอธิปกล่าว

Advertisement

นายอธิปกล่าวว่า อยากให้รัฐบาลและนักศึกษาหันหน้ามาหารือกันด้วยการตั้งโต๊ะแถลง หรือหารือกันในที่ประชุม แล้วถ่ายทอดให้ประชาชนรับฟังพร้อมกันทั่วประเทศ และเมื่อได้ข้อหารือที่เห็นพ้องต้องกันแล้วก็ต้องมาลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมจะดีกว่า ที่ปล่อยให้เหตุการณ์ยืดเยื้อแล้วเกิดความรุนแรงขึ้น เราในฐานะเอกชนขอย้ำเรื่องนี้คืออย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเป็นอันขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image