สถานีคิดเลขที่ 12 : พรรคการเมืองกับม็อบ

สถานีคิดเลขที่ 12 : พรรคการเมืองกับม็อบ การเคลื่อนไหวในลักษณะจัดชุมนุม

สถานีคิดเลขที่ 12 : พรรคการเมืองกับม็อบ

การเคลื่อนไหวในลักษณะจัดชุมนุมขนาดใหญ่ของเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคม จากนั้นก็จัดต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ 3-4 เดือนเข้าไปแล้ว แสดงให้เห็นชัดเจนได้อย่างหนึ่งคือ เป็นการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาจริงๆ มีแกนนำเป็นเยาวชนคนวัยนี้จริงๆ

แม้ในช่วงหลัง แกนนำโดนจับกุมไปแทบหมด ก็สามารถชุมนุมได้โดยทุกคนเป็นแกนนำ

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ทำให้ข้อกล่าวหามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง มีท่อน้ำเลี้ยง เตลิดไปถึงขั้นมีมหาอำนาจชักนำ

Advertisement

กลายเป็นข้อโจมตีที่แผ่วเบาไร้น้ำหนักความน่าเชื่อถืออย่างที่สุด

ขณะเดียวกัน เมื่อดูบทบาทของนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ ในสถานการณ์นี้ก็ยังเห็นได้ชัดว่า ไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องครอบงำการชุมนุมเคลื่อนไหวของเยาวชนนักเรียนนักศึกษาได้เลยแม้แต่น้อย

พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย ก้าวไกล ไปจนถึงคณะก้าวหน้า รวมถึงพรรคประชาชาติ เข้ามามีส่วนในการเคลื่อนไหวของฝ่ายนักเรียนนักศึกษา โดยมีขอบเขตชัดเจน

Advertisement

เข้าไปสังเกตการณ์ในการชุมนุม เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิผู้ประท้วง

เข้าไปช่วยเจรจาคลี่คลายความร้อนแรงเมื่อเกิดการเผชิญหน้า

ดูแลผู้ถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้งในด้านสิทธิผู้ต้องหา ในด้านข้อกฎหมาย และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ดูแลความเป็นอยู่ในสถานที่ถูกควบคุมตัว

ที่อาจจะแสดงออกได้เต็มที่ในฐานะนักการเมืองและพรรคการเมือง ก็ในกรณีที่กำลังจะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาสถานการณ์การชุมนุมนี่แหละ

จึงเห็นได้ว่า ภาพของพรรคการเมืองและนักการเมืองกับม็อบเยาวชนที่ผ่านมา บ่งบอกได้ว่า เป็นการต่อสู้ของเด็กรุ่นใหม่ด้วยตัวเอง ฝ่ายการเมืองไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้มากมายนัก

ยิ่งกรณีของคณะก้าวหน้า หรืออดีตอนาคตใหม่ที่ถูกแบนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ถูกโจมตีจับแพะชนแกะเป็นตุเป็นตะว่าบงการม็อบ

ก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะมาเชื่อมโยงข้อกล่าวหานี้ได้

นายธนาธรไปปรากฏตัวในการชุมนุมบ้าง โดยไปไลฟ์สด ไปร่วมเป็นตัวนับจำนวนคนเข้าร่วมการชุมนุม

แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับเวทีปราศรัย

ครั้นจะบอกว่าเป็นผู้บงการชี้นำก็แทบไม่เห็นร่องรอยอะไรเลย

เหล่านี้จึงบอกได้ว่า อย่าได้หมิ่นแคลนเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ แล้วโปรดดูเวลาเด็กเหล่านี้พูดจาให้สัมภาษณ์แล้วจะรู้ว่าฉาดฉานหลักแหลมหรือไม่

ยิ่งในนาทีวิกฤตโดยเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุมแจ้งข้อหา แทบทุกรายมีการไลฟ์สดนาทีนั้น ได้เห็นวิธีการพูดจาตอบโต้เจ้าหน้าที่ จะรู้ได้ทันทีว่า ความคิดอ่านของเด็กเหล่านี้เป็นเช่นไร

พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า นักเรียนนักศึกษาเหล่านี้สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ จัดชุมนุมเดินขบวนได้ด้วยตัวเองแน่ๆ

ขณะที่พรรคการเมืองและนักการเมืองนั้น เข้ามาร่วมเกี่ยวข้องโดยมีขอบเขตที่แน่นอน

แต่ประเด็นสำคัญสำหรับพรรคการเมืองในสถานการณ์นี้ก็คือ

เราได้เห็นจุดยืนของพรรคการเมืองฝ่ายหนึ่งที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายที่ร่วมกันสร้างอนาคต เพื่อก้าวไปข้างหน้า

กับพรรคการเมืองฝ่ายที่ปกป้องการเมืองแบบเก่าๆ อันล้าหลังอย่างไม่ยอมเปิดหูเปิดตา

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image