ส.ส.ก้าวไกล จี้รัฐ เร่งแก้ปัญหาลำไยล้นตลาด หลังจีนระงับนำเข้า

ส.ส.ก้าวไกล จี้รัฐ เร่งแก้ปัญหาลำไยล้นตลาด หลังจีนระงับนำเข้า หวั่นกระทบเกษตรกร แนะ พาณิชย์ เร่งเจรจาผ่อนปรนเงื่อนไข บรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส. จ.จันทบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์ที่ประเทศจีนระงับการนำเข้าลำไยจาก 66 ล้งของไทย ว่า หากทางการจีนยังระงับการนำเข้าลำไย จะทำให้เกษตรชาวสวนลำไยในจังหวัดจันทบุรีได้รับผลกระทบหนัก เพราะล้งในจันทบุรีอยู่ในรายชื่อที่ถูกระงับการนำเข้า 28 ล้ง อยู่ในจ.สระแก้ว 1 ล้ง โดยส่วนใหญ่เป็นล้งขนาดใหญ่ กินสัดส่วนทางการตลาดไปแล้วถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เป็นปัญหามาก เกษตรกรมีลำไยขาย ล้งก็อยากจะซื้อ แต่ซื้อไปแล้วส่งออกไม่ได้ อยากเร่งรัดให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเจรจากับประเทศจีนให้ผ่อนปรนเพื่อให้สามารถส่งออกและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออก

น.ส.ญาณธิชา กล่าวต่อว่า ในฐานะ ส.ส. ในพื้นที่ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ เปิดเกมรุกในการเร่งเจรจากับประเทศจีนมากกว่านี้ ขอให้ทางการจีนผ่อนปรนเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการล้งสามารถส่งออกได้ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งให้ความรู้กับเกษตรกรในส่วนของการควบคุมคุณภาพและการกำจัดเพลี้ยแป้ง ซึ่งถ้าเราดูในสัดส่วนทางการตลาด พบว่าตลาดสินค้าลำไยส่งออกไปจีนประมาณ 80% นั่นอาจหมายความได้ว่า เราพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไปหรือไม่ เมื่อเกิดปัญหาอะไรกับตลาดจีนขึ้นมา ก็เหมือนกับพังไปทั้งระบบ ซึ่งตนเคยอภิปรายเรื่องนี้ไว้แล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่เหมือนรัฐบาลก็ไม่ได้ใส่ใจกับปัญหานี้ จึงอยากให้กระทรวงพานิชย์เร่งทำงานเชิงรุกอย่างจริงจัง หาตลาดใหม่ๆ ให้กับชาวสวนลำไย จะได้ไม่ต้องพึ่งพาตลาดจีนตลาดเดียว และต้องส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาสินค้าลำไยในรูปแบบอื่นๆ ด้วย

“อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะเกษตรกรชาวสวนลำไยนอกจากปัญหานี้ก็มีปัญหาอื่นๆ อีก เจอพิษโควิดเมื่อปีที่แล้ว บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว บ่นอยากฆ่าตัวตาย หากปัญหานี้รัฐบาลแก้ไขไม่ได้ เกรงว่าอาชีพการทำสวนลำไยคงจบลงด้วยการโค่นต้นลำไยทิ้งแน่นอน  และหากเรายังพึ่งพาตลาดจีนตลาดเดียว ไม่แน่ว่าทุเรียนก็อาจจะเจอปัญหาลักษณะเดียวกับลำไยด้วยก็ได้” ญาณธิชา กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image