ศาลไม่เพิกถอนประกัน’อานนท์’ คดีปักหมุดสนามหลวง สั่งติดอีเอ็ม แต่ยังนอนคุกต่อคดีอื่น

ศาลไม่เพิกถอนประกันอานนท์ คดีปักหมุดสนามหลวง สั่งติดอีเอ็ม กำชับผกก.ดูเเลปฏิบัติตามเงื่อนไขเข้ม เเต่ยังนอนคุกต่อ เนื่องจากยังถูกขังตามหมายไม่ให้ประกันคดีอื่น หากได้ปล่อยต้องติดกำไล

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน 64 ศาลนัดฟังคำสั่งในคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัว คดี ดำ อ. 287/64 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา7 ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือแอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ ที่ถูกเนินคดีมาตรา112 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากการชุมนุมปักหมุดที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20ก.ย. 63 เนื่องจากจำเลยได้ผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของศาล

โดยในส่วนนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือแอมมี่ฯ ,น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุลหรือรุ้ง และนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอกศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาให้เลื่อนการไต่สวนออกไปเป็นวันที่ 18 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

โดยในวันนี้ เบิกตัวยายอานนท์มาศาลคดีนี้คำร้องโจทก์ อ้างว่าจำเลยที่ 2 เข้าร่วมการชุมนุมวันที่ 10 และ 18 ก.ค.64 อันเป็นการผิดเงื่อนไขของศาล ที่ห้ามมิให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จำเลยที่ 2 ได้ปราศรัยในวันที่ 3 ส.ค.64 มีข้อความพาดพิงถึงสถาบันฯ ซึ่งเป็นการผิดเงื่อนไขของศาลที่ห้ามมิให้กระทําการที่อาจกระทบกระเทือนต่อสถาบันฯในทางที่เสื่อมเสีย

Advertisement

ซึ่งศาลได้ดำเนินการไต่สวนโจทก์และจำเลยที่ 2 พิเคราะห์แล้วเห็นว่าการที่ศาลกำหนดเงื่อนไขประกอบการปล่อยชั่วคราวจําเลยที่ 2 นั้นเป็นการกำหนดโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 วรรคท้าย ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงเหตุในการปล่อยชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 (3) และการกระทําที่จะเป็นการละเมิดเงื่อนไขต้องมีความร้ายแรงพอสมควรเมื่อเทียบกับเสรีภาพของจําเลยตามวัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 107

สำหรับกรณีในคดีนี้ แม้ภายหลังการปล่อยชั่วคราวจําเลยที่ 2 จะเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง แต่พยานโจทก์มิได้ยืนยันให้เห็นได้ชัดเจน ว่าจําเลยที่ 2 มีส่วนสำคัญหรือมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ผิดเงื่อนไขในข้อที่ว่าห้ามมิให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

แต่สำหรับการปราศรัย ในวันที่ 3 ส.ค.64 ปรากฏหลักฐานเบื้องต้นว่า ในบรรดาคำปราศรัยของจำเลยที่ 2 มีคำกล่าวถึงสถาบันฯด้วยซึ่งอาจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ศาลได้กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาพฤติการณ์โดยรวมโดยคำนึงถึงดุลยภาพแห่งสิทธิและความได้สัดส่วนแล้ว ในชั้นนี้ยังไม่เห็นสมควรที่จะเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวเสียทีเดียว แต่เห็นสมควรให้กำชับให้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้โดยเคร่งครัด กำชับให้นายสมชาย หอมลออ ผู้กำกับดูแลจำเลยที่ 2 ดูแลจำเลยที่ 2 ให้เข้มงวดกว่านี้ และเพื่อให้แน่ใจว่าจำเลยที่ 2 จะไม่กระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย เห็นควรกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมโดยให้จำเลยที่ 2 อยู่ในเคหสถานตลอดเวลาเว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือเหตุอื่นเมื่อได้รับอนุญาตจากศาล โดยให้จําเลยที่ 2 ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หากจําเลยที่ 2 ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขให้ถอนประกันและขังจำเลยที่ 2 ไว้ในคดีนี้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยก่อนหน้านี้ศาลอาญาเคยมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว นายอานนท์ในคดีมาตรา 112 ปราศรัยอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย 14-15 ต.ค.63
อ.1629/2564 และ คดี อ.2495/2564 เเละคดีชุมนุมอื่นๆ โดยให้เหตุผลไว้ กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เเละคดีการชุมนุมอื่นๆ

เท่ากับว่าขณะนี้นายอานนท์จำเลยที่ 2 ในคดีนี้ยังต้องถูกคุมขังในเรือนจำตามหมายศาลในคดีอื่นอยู่ ส่วนเงื่อนไขศาลที่ให้ติดกำไลอีเอ็มเเละให้ผู้กำกับดูเเลกำชับเงื่อนไข ในทางปฏิบัติจะทำได้เมื่อนายอานนท์จำเลยที่ 2 ได้ประกันในคดีอื่นเเละออกมาภายนอกเรือนจำเเล้ว เเต่ในกรณีที่ยะงไม่ได้ประกันคดีอื่นระหว่างอยู่ในเรือนจำจึงยังไม่ต้องติดอีเอ็ม

ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ศาลอาญาไต่สวนแล้วพิจารณาว่า ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ ที่เพิกถอนประกันนายอานนท์ คดีชุมนุมปักหมุดที่ท้องสนามหลวง นายอานนท์จึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวต่อไป ซึ่งศาลเห็นว่ากระทำที่อัยการโจทก์อ้างว่าไปชุมนุม ก็ยังไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนประเด็นที่กล่าวอ้างว่าพูดจาให้เสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ศาลท่านมองว่า เป็นการใช้สิทธิที่ได้สัดส่วนอยู่ ที่ยังไม่ได้เป็นการดูหมิ่น หรือ อาฆาตมาดร้าย แต่ก็ให้นายอานนท์ จำเลยกับ นายสมชาย หอมลออ ที่เป็นผู้กำกับดูแลให้ช่วยกันดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล นอกจากนี้เห็นควรให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม คือ ให้ติดกำไลติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (กำไลข้อเท้า) และเมื่อได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วก็ให้กักตัวไว้ที่เคหะสถานของจำเลย ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ถ้าหากมีความจำเป็นเช่น ไปรักษาพยาบาล หรือ เหตุจำเป็นอื่นอันสมควร ก็ให้ขออนุญาตต่อศาล ขณะที่นายอานนท์ก็แจ้งกับตนว่าสามารถรับเงื่อนไขนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามนายอานนท์ยังติดกำไลข้อเท้าไม่ได้ เพราะยังถูกขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากคดีอื่น 2 สำนวนของศาลอาญานี้ (คดีแฮร์รี่พอตเตอร์ ครั้งที่ 1 ชุมนุมเสกไม้เท้าเสกคาถา ปกป้องประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 3 ส.ค. 2563 ) และศาลอาญากรุงเทพใต้ ครั้งที่ 2 (คดีแฮร์รี่พอตเตอร์ ครั้งที่ 2 ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ วันที่ 3 ส.ค. 2564) โดยจะทนายความจะยื่นขอประกันตัวในอีกสำนวนคดีของศาลอาญาด้วย เพราะว่าคำวินิจฉัยของศาล ที่ไม่ให้ประกันตัว นั้น ประกอบด้วยเหตุผลว่า เกี่ยวเนื่องกับประเด็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขของศาลอาญาในคดีปักหมุดที่ท้องสนามหลวง ดังนั้น เมื่อศาลอาญาไม่เพิกถอนประกันคดีปักหมุดที่สนามหลวงก็น่าจะเป็นข้อเท็จจริงใหม่ที่ศาลท่านน่าจะพิจารณา ส่วนคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ก็จะรอฟังผลคดีของศาลอาญา แล้วจะไปยื่นประกันตัวเช่นเดียวกัน

นายกฤษฎางค์ยังกล่าวเติมภายหลังอีกว่าภายหลังที่ศาลอาญาไม่เพิกถอนประกันคดีนี้เเล้วในวันนี้ยังได้ยื่นประกันคดีอีก2สำนวนในศาลอาญาในวันนี้เเล้ว

ภายหลังจากที่ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา ในคดีหมายเลขดำ
อ 1629/2564 เเละ 2495/2564 รวม2สำนวน ในช่วงบ่ายวันนี้เเล้ว

ศาลอาญามีคำสั่งทั้ง2สำนวนว่าพิเคราะห์แล้ว ศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

แจ้งคำสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราวให้จำเลย และผู้ยื่นคำร้องทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว

นอกจากนี้ วันนี้ทนายยื่นคำร้อง พร้อมเงินสด 2 แสนขอปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณา นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก จำเลยคดี อ .2380/2564 โดยศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องโดยให้เหตุผลเช่นเดียวกับนายอานนท์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image