3 ผู้ต้องหาแก๊งตุ๋นเข้าทหาร หอบหลักฐานพบกองปราบฯ อ้างเป็นเหยื่อด้วย ให้การภาคเสธ

จากกรณี พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. นำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว 9 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดี “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้หลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด ว่ามีโควต้าฝากเข้ารับราชการทหารได้โดยไม่ต้องสอบบรรจุ แค่ยอมจ่ายค่าดำเนินการให้ก่อนที่จะจัดฉากหลอกผู้เสียหายด้วยการพาผู้เสียหายไปเข้ารับการฝึกอบรม และจัดพิธีประดับยศขึ้นมาเพื่อตบตาเหยื่อให้หลงเชื่อ ต่อมาจับกุมตัวผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวได้แล้ว 6 คน คงเหลือผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีการจับกุมตัวอีก 3 ราย พร้อมกับเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 1 ราย ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว ประกอบด้วย นายรัชชานนท์ ดวงสี อายุ 21 ปี ชาว จ.ปทุมธานี, น.ส.กมลพรรณ ซอรสี อายุ 21 ปี ชาว จ.น่าน และ น.ส.กนกวรรณ ไชยหาญ อายุ 35 ปี ชาว จ.น่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2092 – 2094/2559 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2559 ตามลำดับ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” พร้อมทนายความ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ป. เพื่อติดต่อเข้ามอบตัว โดยนำเอกสารเป็นข้อมูลการติดต่อกับ น.ส.เสาวนีย์ หรือณัฐณิชา สุนทร อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้มามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน

นายรัชชานนท์กล่าวว่า ได้ทราบข่าวว่าตนพร้อมด้วย น.ส.กนกวรรณ และ น.ส.กมลพรรณ ตกเป็นผู้ต้องตามหมายจับในคดีดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ มามอบให้ตำรวจ เนื่องจากตนและทั้ง 2 คนนั้นตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.เสาวนีย์หลอกลวงเช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ โดยก่อนหน้านี้รู้จัก น.ส.เสาวนีย์ผ่านทางนายธณรัสย์ นภิศสิริปภัสร์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่เดินทางมาติดต่อมอบตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งได้แนะนำว่า น.ส.เสาวนีย์มีโควต้าสามารถฝากเข้ารับราชการทหารได้ จึงสนใจ แต่เนื่องจากไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายให้กับ น.ส.เสาวนีย์ได้ ทางนายธณรัสย์จึงอาสาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน โดยตกลงกันว่าหากได้รับเข้าบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ทหารแล้วจะต้องกู้เงินจากเงินกองทุนสหกรณ์ทหารฯมาใช้คืนให้กับนายธณรัสย์

นายรัชชานนท์กล่าวอีกว่า เวลานั้นค่อนข้างเชื่อมั่นว่าน.ส.เสาวนีย์สามารถพาตนและเพื่อนฝากเข้าเป็นทหารได้จริง เนื่องจาก น.ส.เสาวนีย์ได้นำเอกสารเป็นหนังสือเกี่ยวกับคำสั่งแต่งตั้งของกรมทหารที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาหลอกพวกตนว่าได้รับการบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ทหารในยศร้อยตรีแล้ว รอเพียงคำสั่งเรียกตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้ากลับยังไม่มีวี่แววที่จะได้เป็นทหารตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อสอบถามกลับไปก็ถูกบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่ารอหนังสือคำสั่งจากทางกรมทหาร จึงเริ่มเอะใจว่าตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.เสาวนีย์หลอกแน่ จึงเริ่มรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัด กระทั่งทราบข่าวต่อมาในภายหลังว่า น.ส.เสาวนีย์และพวกถูกจับกุมตัวดังกล่าว รวมถึงตนและเพื่อนเองนั้นก็ยังมากลายเป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับตามมาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรณีที่ตนและเพื่อนมีภาพปรากฏอยู่ในพิธีประดับยศที่ น.ส.เสาวนีย์จัดขึ้น ขอชี้แจงในส่วนนี้ว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับพิธีการดังกล่าวมาก่อน แต่ยอมรับว่าได้ไปเข้าร่วมงานจริงตามคำเชิญของ น.ส.เสาวนีย์ ก่อนที่ น.ส.เสาวนีย์จะเดินมาบอกให้พวกตนสวมใส่เครื่องแบบทหารทำหน้าที่เป็นพิธีกรในพิธีและยืนถือพานประดับยศ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งไม่เคยเห็นหน้าหรือพบเจอมาก่อน และไม่ทราบด้วยว่าเป็นพิธีการที่ถูกจัดฉากขึ้นมาเพื่อตบตาเหยื่อ

Advertisement

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การภาคเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ร่วมขบวนการ โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีมามอบให้กับทางตำรวจ พร้อมกับเตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมาขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวนเพื่อขอต่อสู้คดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image