เลิกคิด! งบช่วยชีวิต 13 หมูป่า 10 ล้าน หรือ 100 ล้าน คุ้มหรือไม่

AFP

“นี่คือพลังแห่งความรัก กำลังใจ บอกแก่ชาวโลก…อยากให้ประเทศไทยรักกันเหมือนวันนี้ที่เราทำได้สำเร็จ…อยากให้เอาบทเรียนของแม่สายไปใช้ให้ประเทศไทยก้าวไกล พัฒนา…ทีมไทยแลนด์ได้ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดได้เป็นครั้งแรกของโลก เป็น Mission Possible”

นี่คือบทสรุปจากปากคำของ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ (ศอร.) แถลงเสร็จสิ้นภารกิจช่วย 13 ทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง ที่พูดอย่างง่ายๆ กระชับ และมีคุณค่า

ปฏิบัติการ Mission Possible ครั้งนี้ คือภารกิจอาศัยความร่วมมือร่วมใจของนานาชาติ ภายใต้กำลังใจล้นหลามของคนทั้งโลก

ภายใต้ช่วงเวลาที่คนทั้งโลกยินดีปรีดากันขณะนี้ หลายคนคงหลงลืมว่าชีวิตนั้นย่อมมี 2 ด้านเสมอ โดยเฉพาะผลกระทบที่เด็กๆและโค้ชทั้ง 13 คนจะได้รับหลังช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเช่นนี้หมดลง

Advertisement

ผมเชื่อเหลือเกิน ไม่ว่าผม หรือ คนอีกหลายๆคน คงมีห้วงเวลาที่เราอาจแว่บคิดขึ้นมา หรือ ตั้งคำถามขึ้นมาในหัวว่า ปฎิบัติการครั้งนี้ระดมสรรพกำลังนับหมื่นคน ระดมเครื่องไม้เครื่องมือมากมายขนาดนี้

ปฎิบัติการครั้งนี้ใช้งบประมาณมากมายแค่ไหน ตัวเลขที่ตีเป็นเงินอาจมากมายกว่า 10 ล้าน 100 ล้าน หรือ 1,000 ล้านบาท

ทั้งๆที่ความเป็นมนุษย์ของทั้ง 13 คน เราไม่สามารถตีเป็นมูลค่า หรือตีเป็นเงินทองได้

Advertisement

หากใครคิดเช่นนี้ ผมขออนุญาต และขอบคุณ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ประกายพฤกษ์ จิตกาธาน” ที่ได้โพสต์ข้อความนำเรื่องดีๆ ข้อคิดจากปราชญ์ – อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ในประเด็นและคำอธิบายต่อเสียงบ่นว่าช่วยหมูป่าเปลืองงบแผ่นดิน

อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ เล่าว่า นั่งแท็กซี่แล้วคนขับบ่นถึงกรณีหมูป่าว่า ทำให้เสียงบประมาณประเทศชาติ อาจารย์จึงแลกเปลี่ยนกับแท็กซี่ว่า ถ้าลองเราตั้งงบสักหนึ่งพันล้านบาท เพื่อทำโครงการประชาสัมพันธ์ความดีงามด้านต่างๆ ของประเทศไทย แล้วให้สื่อต่างๆ ทั่วโลกช่วยเผยแพร่ข่าวนี้ตลอดทั้งวัน ทุกวันต่อเนื่อง งบสักหมื่นล้านคงไม่เพียงพอที่จะทำให้ทั่วโลกสนใจหันมามอง และได้เห็นว่าในสถานการณ์ยากลำบาก คนไทยมีความสามัคคี มีความดีงามในด้านต่างๆ ขนาดไหน…

ฝรั่งมีอาการตื่น..ตื่นขึ้นมาจากการเห็นแม่ครัวยืนทำกับข้าวเลี้ยงคนต่อเนื่อง สำหรับบ้านเราการออกโรงทานในงานบุญถือเป็นเรื่องธรรมดามาก ที่จะยืนผัดเส้นหมี่เป็นวันๆ เพื่อเลี้ยงผู้คน ในธรรมดาของพวกเราสามารถทำให้พวกฝรั่งตื่นรู้ขึ้นมา เป็นความธรรมดาที่ดีงาม…

เมืองไทยและคนไทยยังมีสิ่งที่ดีงามอีกมากมาย ในมิติทางด้านจิตใจและวิถีชีวิตของเรา เป็นความธรรมดาที่พวกเราเคยชิน แต่เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นปรากฏขึ้น ความธรรมดาเหล่านี้และความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกฝ่าย สะเทือนไปในระดับโลก ดังนั้นเสียงบประมาณเพียงเท่านี้ เพื่อช่วยเหลือน้องน้องออกมา จึงนับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม…

ชาวนาที่ยอมให้น้ำท่วมเข้าไร่นาของตน ความรู้สึกที่ว่า “เราเสียหาย แต่เราไม่โกรธ และเราพร้อมแบกรับ” นี้เป็นความหมายที่ยิ่งใหญ่งดงามที่ชาวไทยและทุกคนได้เรียนรู้ร่วมกัน…
สำหรับ 13 หมูป่าให้นึกภาพถ้าเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็กในเมืองไปติดถ้ำ คงแย่ เพราะคนแก่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่ ถ้ำจึงหมายถึงความหวาดกลัว แต่สำหรับหมูป่า ถ้ำในใจ หมายถึงความรับผิดชอบ ความเป็นเพื่อน การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สิ่งนี้ทำให้เกิดพลัง พลังนี้ยืนยันว่าตลอด 9 วันที่ยังไม่มีคนไปพบน้องๆเกิดความหมายอะไรในใจขึ้นน้องๆ ที่น้องๆ ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้…

ดังนั้นหากพ่อแม่จะสอนลูกหลาน ควรจะสอนให้ลูกมีหัวใจที่รู้สึกดีที่จะมีชีวิต รู้สึกดีที่จะเผชิญเหตุการณ์ต่างๆ ให้ลูกรู้ว่าเราไม่สามารถจัดการโลกข้างนอกให้เป็นไปตามใจปรารถนา แต่เราสามารถทำใจให้เผชิญความเป็นจริงได้…

ปีนี้ฟุตบอลโลกไม่รู้ว่าใครจะเป็นแชมป์ แต่ทีมหมูป่าอะคาเดมีคือแชมป์ตัวจริง ที่อยู่ในใจของชาวโลกแน่นอน ใครได้อ่านหรือได้ฟังข้อคิดนี้ คงสลัดความคิด หรือ หายสงสัยเลิกคิดถึงประเด็นนี้ได้แล้ว ….

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image