เป็น CEO หมื่นล้าน บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) สำหรับ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิปดิ์ ที่หลายคนอาจจะแอบอิจฉาในความสำเร็จของเธอ แต่กระนั้นแอนก็มีอดีตสุดขมขื่นที่เจ้าตัวได้เปิดใจให้ฟังในรายการ เจาะใจ ที่จะออกอากาศวันที่ 29 กันยายน นี้ เวลา 21.00 น. ทางช่อง 9 MCOT HD เพื่อให้เรื่องนี้ได้เป็นอุทาหรณ์ โดยได้เล่าถึงแรงผลักดันที่ทำให้ประสบความสำเร็จขนาดนี้เป็นเพราะอะไรต้องไปฟัง!!
“เราเป็นผู้หญิงที่เกิดผิดร่าง ไม่ใช่เรื่องรสนิยมทางเพศ แต่เราเป็นผู้หญิงที่อยากมีแฟนเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ตุ๊ดเกย์ แต่ร่างเรามันไม่ได้”
“ก็เลยต้องเดินหน้าทำงานให้ประสบความสำเร็จอย่างเดียว นั่นคือสิ่งที่เราสามารถทดแทนบุญคุณพ่อกับแม่ได้”
ก่อนจะเผยถึงเส้นทางการพิสูจน์ตัวเอง ที่แอนบอกว่า ผ่านคำพูดดูถูกเหยียดหยามมาไม่น้อย ว่า ‘เป็นตุ๊ดไม่มีวันได้ดี’ ต้องปกปิดตัวเองกับพ่อแม่ ทุ่มเททำงานแต่งานเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ แล้วถึงได้กล้าออกมาบอกกับใครๆ ว่าตัวเองเป็นผู้หญิง
รวมไปถึงอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นจุดเป็นแรงผลักที่ทำให้ตนมีวันนี้ กับเรื่องราวที่ผ่านมานานเกือบ 30 ปีที่ไม่เคยกล้าบอกใคร นั่นก็คือการถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุ 12 ตอนป.6 และคนที่ทำก็คือครูที่สอนตัวเอง
“เนื่องจากเราก็เป็นตุ๊ดที่อ้อนแอ้นอยู่ในโรงเรียนและทุกครั้งที่เรียนวิชานี้ เวลาเรานั่งเรียนอยู่เขาก็จะมานั่งข้างๆ มากระชากกางเกง ดึงกางเกงในของเรา เราก็พยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ไม่ได้โวยวาย ไม่กล้ากระโตกกระตากเพราะว่ากลัว แต่เพื่อนๆ เห็นหมดนะ”
“คือเราเป็นเด็กที่ไม่สู้คนกลัวว่าจะมีเรื่อง เพราะถ้ายิ่งพูดยิ่งโวยวายการที่เราเป็นตุ๊ดอยู่ในโรงเรียนมันจะแพร่กระจายในวงกว้างจนไปถึงหูพ่อแม่เรา แต่พอเราไม่โวยวายเขาก็ยิ่งทำหนัก”
จนกระทั่งวันที่มีงานโรงเรียน ซึ่งแอนได้รับให้แสดงเป็นบทเด่นในเรื่องนั้น และความที่บ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนเลยต้องไปค้างคืนที่บ้านของครูคนดังกล่าว โดยตอนแรกก็ทราบว่าจะมีเพื่อนหลายคนไปค้างด้วย
“แต่ปรากฎว่าพอเริ่มค่ำปุ๊บทุกคนแยกย้ายกลับบ้านหมดเลย เราก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่ก็คิดอีกว่ากลับตอนนี้มันก็จะวุ่นวายต้องมีคนมารับอีก แล้วต้องตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่ตี 5 ก็เลยตัดสินใจนอนค้าง”
“ปรากฎตอนกลางคืนเขาก็ล็อคบ้าน ล็อคห้องหมด สุดท้ายคืนนั้นก็เกือบทั้งคืนเลย ถูกบังคับ เราก็พยายามต่อสู้แต่ประตูล็อคหมดทำอะไรไม่ได้ เขาก็ตบหัวเราให้ลงไปข้างล่างและคุกเข่า ในหัวตอนนั้นกลัวไปหมดว่าเขาจะมีดมาเสียบเรามั้ย จะฆ่าเราหรือเปล่า มันกลัวมันขี้ขลาดไปหมด ก็เลยปล่อยอยากทำอะไรก็ทำให้ถอดอะไรก็ถอด” แอนเล่า
“เป็นเรื่องที่แค้นที่สุด ทุกวันนี้พอคิดถึงขึ้นมาก็แค้นนะ แต่มันก็ผ่านพ้นจากจุดนั้นไปได้”
ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเปลี่ยนเป็นคนละคน กลายเป็นคนระวังรอบคอบ เวลาที่เห็นอะไรที่เราไม่ชอบหรือเวลาถูกเอาเปรียบมันจะมีการปะทะกลับแบบอัตโนมัติ จากคนที่กลัวขี้อายต้องกลับมากล้าแสดงออกลุกขึ้นมากล้าโต้วาที เพราะความแค้นที่อยู่ในใจกลายเป็นแรงผลักดันให้เราต้องเอาดีให้ได้
“พออายุ 13 แอนตัดสินใจเลยว่าจะเป็น โอปรา วินฟรี่ ประเทศไทย ต้องเป็นนักพูดให้ได้ เพราะคิดว่าถ้าเรามีไมค์อยู่ในมือมันจะทำให้เรามีอำนาจ และจะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายเราได้อีก”
และตอนนี้ก็ได้ตัดสินใจทำพ็อตเก็ตบุ๊ค “Call Me Anne ข้ามเพศพันล้าน” ขึ้นมา โดยรายได้ทั้งหมดจะนำเข้า มูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ (L.I.F.T.) ที่ตนได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้การศึกษากับคนข้ามเพศ