ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจดัง “ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นซีส” ได้วิจารณ์ภาพยนต์เรื่องนาคี 2 ที่เพิ่งลงจอมาเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้ระดับความสนุกที่ 4.5 จากคะแนนเต็ม 10
โดยเพจดังกล่าวระบุว่า “นี่คือความเห็นส่วนตัว ใครรักใครชอบก็ไม่มีผิดถูก เห็นคนเต็มโรงเขาก็มักและหม่วนกันคัก มักโพดโพ เด็กน้อยกะเทิงหัวเทิงไห้ กูกะดีใจกับหนังไทยนำเด้อ อย่างน้อยๆก็ทำให้มีคนกล้าสร้างหนังเทคนิคพิเศษออกมา แล้วพัฒนากันไป แต่ถามว่านี่คืองานซีจีที่ต้องยกนิ้วให้แล้วปรบมือไหม ถ้าไม่นับรวมว่าเป็นหนังไทย เอาไปเทียบกับ จีน อินเดีย หรือ เกาหลี แถบๆนี้ต้องขอบอกว่า บ่สู้เขาดอก อย่าฟ้าวอวยกันคักหลาย
.
กูน่าจะเชื่อสัญชาตญาณดิบของกูว่ามันก็แค่ละครที่เอามาขึ้นจอใหญ่นั่นแหละ ในทางกลับกัน เวอร์ชั่นละครกลับทำได้ดีกว่าในดีเทลต่างๆนาๆที่บ่มฟักแล้วนำพาไปสู่บทสรุป แม้แต่ความสัมพันธ์ฉันคู่รักยังเทียบภาคละครไม่ติด ของ ทศพล กับ อีคำแก้ว นำเสนอให้คนดูรู้ว่าสองคนรักกันแค่ไหน ฝ่าฟันเรื่องราวต่างๆนาๆมาอย่างไร แต่พอมาเป็น อีสร้อย กับ สารวัตรป้องปราบ เรากลับได้เห็นแค่ สาวชาวบ้านหน้าอินเตอร์ที่ทำหน้าบึ้งตาเหลือกทั้งเรื่อง ตาเหลือกใส่ทุกสรรพสิ่งที่เห็น แม้กระทั่งซีนพบกันครั้งแรกกับพระเอกยังตาเหลือกใส่ ในหนังได้แอบบอกในประวัติว่าเธอเคยเป็นพนักงานต้อนรับในโรงแรม กูก็ไม่แปลกใจหรอกที่อีสร้อยมันจะไม่ได้ทำงานต่อ มึงไปตาเหลือกใส่ลูกค้าจนถูกไล่ออกแน่นอน ส่วนสารวัตรป้องปราบ ก็เหมือนตำรวจหน้าหม้อ ที่ตามเฝ้าแต่สาวไม่เว้นแต่ละวัน ไอ้จะมานั่งสืบสวนจริงๆจังๆ หาหลักฐานจากแวดล้อมนี่แทบไม่มี เวลามีคนตายก็แค่ยืนมองรูปถ่ายศพคนตายแล้วก็บ่นพึมพำว่า ทำไม ทำไม และ ทำไม แต่ถือเป็นตำรวจที่เทพมากนะ เจอศพในสภาพกระจุยกระจายร่างเละ เดินไปทำหน้าหล่อแล้วครุ่นคิด ไม่มีหรอกที่จะมายืนปิดจมูก หรืออ้วกแตกเหมือนหนังชาติอื่นๆ เดี๋ยวไม่หล่อ
เปิดเรื่องมากูยอมรับว่าขนลุกกับว้อยซ์โอเวอร์ของป้าที่เล่าตำนานนาคีโดยแทรกเอา คำผญ๋า สไตล์อีสานเข้ามาด้วย นี่คือความเข้าใจในวิถีอีสานที่น่าชื่นชม แต่หลังจากนางเอกกับพระเอกเจอกัน แล้วมีซีนน้ำเน่าแบบละครเกิดขึ้น กูก็รู้ในทันทีว่าต่อไปจะต้องเจอกับอะไรในหนังทั้งเรื่อง คือต่อจากนั้นหนังแม่งก็เสียสติพอๆกับชาวบ้านในเรื่องนั่นแหละ รวมถึงคนดูในโรงด้วย พวกมึงน่าจะมีสำนึกบอกให้ลูกหลานมึงหุบปากบ้างเวลาดูหนัง และมึงควรหยุดขำกับฉากที่ไม่ควรขำกันได้แล้วอีเหี้ย!! แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะถ้าหนังมันเทียบระดับ The Wailing ได้จริงๆอย่างที่หลายคนว่าไว้ กูคงลุกไปด่ามึงให้มึงหุบปากลูกมึงแล้ว แต่เพราะหนังมันไม่จำเป็นต้องใช้สมองดูอีกต่อไปไง มึงเลยรอดพ้นปากหมาๆของกู เรื่อง CG ที่คนชื่นชมกันเยอะนี่ก็เฉยๆนะ ไม่แย่แต่ก็ไม่ดีถึงขั้นต้องยกนิ้วให้อ่ะ ส่วนพวกที่อวยบอกเทียบเท่าระดับฮอลลีวู้ดนี่ มึงเอาCG จากหนัง Bangkit ของอินโดนีเซียให้ลงก่อน ค่อยพูดถึงฮอลลีวู้ด การถ่ายภาพถือเป็นงานที่สวยใช้ได้ มีมุมกล้องแบบอินเตอร์ให้ได้เห็นในฉากพระเอกมองออกนอกหน้าต่าง และการเซ็ตฉากสถานที่เกิดเหตุก็ดูลงทุน รวมไปจนถึงเทคนิคทำศพคนก็ทำได้โหดสมจริงดี (อ่านรายละเอียดได้ตามเพจข้างต้น)
ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส
———-
ขณะที่อีกเพจคือ “อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก” ระบุว่า นาคี๒ งานCG ไม่แพ้หนังจีนชั้นดีเลย แม้บทจะมีแผลเยอะมากไปหน่อย พร้อมกับให้คะแนน 6 จาก10 คะแนน
ลองมาอ่านกันดูว่าเขาวิจารณ์กันว่าไงอันนี้เพิ่งเข้าโรงหนังในรอบสัปดาห์นี้เองครับ เพราะต้นสัปดาห์ไม่มีเวลาไปดูรอบสื่อเลย วันนี้ดูนาคีเป็นเรื่องแรก เพราะทราบมาว่ากระแสแรงมาก และต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยสำหรับว่าที่หนังไทยที่(น่าจะ)กวาดรายได้สูงที่สุดของปี 2561 ตอนนี้ผมมองไปที่เกิน 300 ล้านไปแล้วนะ งานนี้ก็บอกตรงๆว่าดีใจมากที่หนังไทยได้ตัง แต่หลังจากที่ไปดูมา ผมก็พบว่า สำหรับใครที่มองว่างานCG ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของหนังไทยมาตลอดนั้น ถ้าได้ดูเรื่องนี้ ผมยืนยันว่างาน CG ของนาคีไม่แพ้หนังจีนดีดีเลย แม้จะยังไม่ถึงฮอลลีวู้ด แต่ในเอเชียผมว่าเราไม่แพ้ใครนะ ส่วนงานเรื่องบท ก็ยอมรับแหละว่ามันมีบาดแผลพอสมควรเลยล่ะ แต่หนังมันก็สนุกดีนะ สังเกตจากรีแอคชั่นคนในโรงที่ไปดูกันแน่นโรง (อ่านรายละเอียดได้ที่เพจ)
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจ “ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นซีส” และ เพจ “อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก”