วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (สถานที่รวบรวมยางจากสมาชิกสหกรณ์ในจังหวัดตรัง เพื่ออัดก้อนส่งขายและทำธุรกิจซื้อขายยางในตลาดกลาง) นายประทบ สุขสนาน ประธานชุมนุมสหกรณ์ยางตรัง เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานกำกับดูแลสหกรณ์ ประชุมร่วมพิจารณาวาระต่างๆ โดยวาระสำคัญอยู่ที่ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นภายในชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง2 เรื่อง คือ ปัญหาเงินทุนหมุนเวียนของชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง ขาดสภาพคล่องทางการเงินและหมดไป
โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการชุดปัจจุบันตรวจสอบพบเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่า ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง กับพวก ร่วมกันทุจริตฉ้อโกงยักยอกยางของชุมนุมฯไปขายให้กับ 2 บริษัท คาดว่าอาจเป็นของผู้จัดการที่ไปลักลอบจดทะเบียนจัดตั้ง โดยร่วมกับคนของบริษัทเอกชนบริษัทหนึ่ง ไปออกออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 10 ฉบับๆละ 5 ล้าน รวม 50 ล้าน กู้เงินจากบุคคลภายนอก โดยไม่ผ่านการพิจารณาและมติของคณะกรรมการฯชุดขณะนั้น โดยเอาเงินไปใช้ส่วนตัว ล่าสุด เจ้าของเงินแจ้งความดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางคณะกรรมการชุดปัจจุบันได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้ง 2 กรณี ขึ้นมารวม 2 ชุด เพื่อแยกสอบสวนและหาหลักฐานแบ่งออกเป็น 2 กรณีดังกล่าว จากหลักฐานที่มีการตรวจสอบได้ พบว่าผู้จัดการพร้อมพวกยักยอกเงินชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรังประมาณ 300 ล้านบาท แต่เชื่อยังมี เพราะทำมาแล้วประมาณ 5 ปี และยังมีเงินที่อีกหลายบริษัทที่ค้างจ่ายชุมนุมสหกรณ์ ส่งผลให้ชุมนุมฯขาดสภาพคล่องทางการเงิน ผลการประชุมของคณะกรรมการได้ลงมติร่วมกันให้ไล่ออก ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง และแต่งตั้งกรรมการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ และเอกสาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายชาลี ทวิสุวรรณ ประธานสหกรณ์ห้วยยอด ซึ่งเป็นประธานสอบสวนกรณีการขายยางของชุมนุมฯ กล่าวว่า จากมติคณะกรรมการให้แต่งตั้งหาข้อเท็จจริงเนื่องจากเงินของชุมนุมหายไป 207 ล้านบาท จึงตั้งกรรมการ เพื่อหาข้อเท็จจริงซึ่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จพบพฤติการณ์ว่า ผู้จัดการชุมนุมฯสหกรณ์จังหวัดตรังไปเกี่ยวข้องหรือเป็นผู้ดูแลบริษัทอยู่ 2 บริษัท ซึ่งเชื่อว่าเป็นของผู้จัดการฯเอง ที่ไปลักลอบเปิดไว้โดยไม่ใช้บุคคลอื่นทำธุรกรรมแทน เมื่อชุมนุมฯประมูลยางในตลาดกลางได้ หรือมีคนติดต่อขอซื้อยางจากชุมนุมฯ ผู้จัดการก็สั่งคนไปรับยาง หรือนำยางขึ้นรถ จากนั้นยางที่ชุมนุมฯประมูลได้จากตลาดกลาง ก็ไม่นำกลับมาเก็บที่ชุมนุม แต่กลับประสานไปยังบริษัทแรกให้ติดต่อบริษัทที่ 2 นำยางไปขายให้บริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ และนำเงินทั้งหมดก็เข้ากระเป๋าตัวเองกับพวก โดยไม่เข้าชุมนุมฯ
“อยากเรียกร้องให้ผู้ใหญ่เข้ามาดูแลคดีสอบสวนหาข้อเท็จจริง แล้วมีบทลงโทษผู้กระทำผิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะบางหน่วยงานไม่มีอำนาจที่จะไปเรียกร้องเอกสาร เส้นทางการเงินที่ได้ เช่น หลักฐานการโอนเงินของสถาบันการเงินต่างๆ ต้องให้มีอำนาจเท่านั้นจึงจะเรียกตรวจได้ เพราะเส้นทางการเงินที่จะต้องสอบพบว่ามีทั้งที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และโอนเข้าบัญชีบริษัท” นายชาลีกล่าว
อนึ่งการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 10 ฉบับๆละ 5 ล้าน รวม 50 ล้าน โดยผู้จัดการฯเป็นคนลงนามในตั๋วสัญญาแล้วไปกู้เงินจากไปกู้เงินโดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการฯขณะนั้น ขณะนี้ทางเจ้าของเงินได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีทางแพ่งกับชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรังด้วย และในส่วนของชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรังได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเอกชนรายหนึ่งกับกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเช่นกัน
