หลังจากคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป แสดงบทบาทด้วยการเชิญ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มาหารือ
ครานี้ถึงบทของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมิชอบ
หรือที่รับรู้ในชื่อย่อว่า กรรมาธิการป.ป.ช.
ทำหนังสือเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาสอบถามในเรื่องการเสนอร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาโดย มิชอบในวันที่ 30 ตุลาคม
ให้เวลาในการตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไปตามหนังสือเชิญของ คณะกรรมาธิการ
เหตุผลที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป เชิญ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ สัมพันธ์กับคำบรรยาย”แผ่นดินของเรา”
เหตุผลของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความสัมพันธ์กับ 2 กรณี
1 กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งเด่นชัดยิ่งว่ากล่าวไม่ครบตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ทำให้การดำรงตำแหน่งของครม.ไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ
1 เมื่อเป็นเช่นนี้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จึงไม่ชอบจากเหตุอันเนื่องแต่การถวายสัตย์ไม่ครบ
จำเป็นที่คณะกรรมาธิการจะต้องทำให้”กระจ่าง”
ไม่ว่าคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป ไม่ว่าคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
ล้วนทำตามบทบัญญัติของ”รัฐธรรมนูญ” มิใช่ทำตามอำเภอใจ
เหตุนี้เองทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ต้องบินด่วนจากกาญจนบุรีเข้าพบคณะกรรมาธิการ
คำถามอยู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะปฏิบัติเช่นเดียวกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือไม่
แสงแห่งสปอตไลต์ย่อมฉายจับด้วยความระทึกยิ่ง