ไอติม พริษฐ์ผุดไอเดีย ปั้น “StartDee” แอพพ์เพื่อการศึกษา

เพราะการเรียนรู้เป็นเรื่องที่รอไม่ได้ สำหรับเด็กไทยกว่า 8 ล้านคนที่ต้องถูกเลื่อนเปิดเทอม จนทำให้ช่วงเวลาในการเรียนรู้ขาดหายไป ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอหนุ่ม

รุ่นใหม่ บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด จึงเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้านการศึกษา “StartDee” ที่เปรียบเสมือน “Netflix ของการศึกษาไทย” เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนในทุกวิชาทุกระดับชั้น ผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา ภายใต้การเรียนการสอนในรูปแบบ Personalized Learning โดยเตรียมปลดล็อกให้เรียนฟรีในช่วงโรงเรียนเลื่อนเปิดเทอมตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม- 30 มิถุนายนนี้ โดยได้ประกาศจับมือกับพาร์ตเนอร์หลักอย่าง เอไอเอส ซึ่งเป็น Digital Infrastructure โครงข่ายดิจิทัลพื้นฐานหลักของประเทศ ที่มาในบทบาทของผู้ให้บริการด้าน Digital Life Service Provider ในการร่วมสร้างสรรค์บริการและคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ด้านการศึกษาให้กับเด็กไทย ผ่านศักยภาพเครือข่ายดิจิทัลอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และดิจิทัลแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง พร้อมส่งมอบบริการและคอนเทนต์ด้านการศึกษานี้แก่เด็กไทยทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างง่ายขึ้น และทั่วถึง ทุกที่ ทุกเวลา

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า แอพพลิเคชั่นด้านการศึกษา “StartDee” ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ ส่งเสริม และใช้ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศกว่า 8 ล้านคน สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึงที่สุด โดยเล็งเห็นถึงความแตกต่างและไม่เท่าเทียมกันของผลลัพธ์ และประสบการณ์การเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียน เปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างง่ายคือ โรงเรียนที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่ มีผลการเรียนที่เทียบเท่ากับโรงเรียนชั้นนำระดับโลก ในขณะที่โรงเรียนขนาดเล็กกว่า 15,000 แห่ง อาจจะขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน หรือคุณครูที่มีไม่พอสำหรับทุกระดับชั้น เป็นต้น StartDee จึงถูกพัฒนาให้เป็นเหมือน “Netflix ของการศึกษาไทย” ให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนการสอนในทุกวิชา ทุกระดับชั้น ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นการศึกษาที่ดีสำหรับทุกคนตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ว่า “A Good Start For All”

โดยจุดเริ่มต้นของการศึกษาที่ดีนั้นคือการที่เด็กนักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ถูกต้องตามหลักเนื้อหาวิชาการ และที่สำคัญคือตรงตามความต้องการความถนัดและความต้องการของเด็กแต่ละคน โดย StartDee ได้มีการนำเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบ “Personalized Learning” ที่จะช่วยแนะนำลำดับของวิดีโอ และปรับความยากง่ายของคำถามหรือเนื้อหาบทเรียน ตามความถนัด และพัฒนาการของเด็กนักเรียน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่อาจแตกต่างกันของนักเรียนทุกคน นอกจากนี้หัวใจสำคัญของการพัฒนาแอพพลิเคชั่น StartDee ตามวิสัยทัศน์ A Good Start For All คือการให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่าน StartDee ได้อย่างเท่าเทียมกัน จะต้องครอบคลุม 3 เรื่องหลัก นั้นคือ

Advertisement

1.ทุกคน – ด้วยราคาที่ถูกมาก ครอบคลุมทุกระดับชั้น (ป.1 – ม.6) เข้าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา

2.ทุกวิชา – ครบถ้วนด้วยเนื้อหาของทุกวิชาในโรงเรียน และเนื้อหาพัฒนาทักษะด้านอื่นของเด็กๆ ทั้งในรูปแบบวิดีโอ แบบฝึกหัด หรือข้อสอบจำลอง

3.ทุกระบบ – มีความเสถียรและง่ายต่อการใช้งาน ทุกระบบ ทุกหน้าจอมือถือและแท็บเล็ต

Advertisement

การเลื่อนเปิดเทอมของโรงเรียนได้สร้างความกังวลให้กับนักเรียนและผู้ปกครองว่าจะเรียนไม่ทันเนื่องจากปีการศึกษาที่ถูกบีบให้แคบลง รวมถึงข้อสังเกตจากสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ว่าการขาดหายจากการเรียนรู้ไป 6 สัปดาห์ อาจส่งผลให้ความรู้ของนักเรียนหายไปถึงครึ่งปีการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่รอไม่ได้และไม่จำเป็นต้องรอ StartDee จึงเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนฟรีในช่วงที่ถูกเลื่อนเปิดเทอมตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม-30 มิถุนายน ผ่านโครงการ “School For All” ที่ประกอบไปด้วย 3 บริการพิเศษ

1.FREE Self-Learning ปลดล็อกให้เด็กเข้าเข้าถึงเนื้อหาการเรียนการสอนทุกส่วนในแอพพลิเคชั่นฟรี ในลักษณะของการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านวิดีโอและแบบฝึกหัด โดยเนื้อหาจะครอบคลุมทุกวิชาหลักในระดับชั้นของมัธยมศึกษา (ตั้งแต่ พ.ค.) และประถมศึกษา (ตั้งแต่ มิ.ย.)

2.FREE Online Class จัดการสอนเพิ่มเติมทุกวันฟรีโดยครูชั้นนำในแต่ละวิชา ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ 09.00-12.00 น. ผ่านการไลฟ์สตรีมในแอพพลิเคชั่น สำหรับนักเรียนระดับชั้นที่มีความต้องการมากที่สุด เช่น ม.6 และ ม.3

3.FREE Internet with AIS ร่วมมือกับเครือข่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เอไอเอส เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงการเรียนการสอนให้กับเด็กไทยอย่างมีคุณภาพทั่วประเทศ

นางสาวเบญจพร กำเพ็ชร หัวหน้าส่วนงานการตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวถึงบทบาทของเอไอเอสในการร่วมขับเคลื่อนอนาคตการศึกษาเด็กไทยว่า “เอไอเอสมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนการศึกษาของเด็กและคนไทย ด้วยความเชื่อที่ว่าความรู้ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญที่จะสามารถต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ต่อสังคม และต่อประเทศชาติได้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้หลายอย่างเปลี่ยนไป แต่เรามั่นใจว่าหลังจากสถานการณ์สงบลงการเรียนออนไลน์จากที่บ้าน จะเป็น New Normal ที่ทุกคนคุ้นชิน ดังนั้นการได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มากความสามารถอย่างแอพพลิเคชั่น StartDee ถือได้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะช่วยยกระดับการศึกษาให้เข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มด้วยเทคโนโลยีจากทางเอไอเอส

โดยครั้งนี้ AIS และ StartDee ได้รวมพลังกันขับเคลื่อนภาคการศึกษาไทยผ่านระบบออนไลน์ครั้งสำคัญ เปิดโอกาสให้เด็กไทยและคนไทยได้เข้าถึงการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ โดยเอไอเอสได้นำแพลตฟอร์มและเครือข่ายที่แข็งแกร่ง มาร่วมส่งมอบการบริการและคอนเทนต์คุณภาพด้านการศึกษาให้เข้าถึงเด็กไทยทั่วประเทศ ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลา สถานที่ เพียงคลิกเดียวผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งเอไอเอสได้ทุ่มเทสรรพกำลัง ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี และบุคลากร มาสนับสนุนใน 4 ด้านหลัก ประกอบไปด้วย

1.นำจุดแข็งทางด้านวิดีโอแพลตฟอร์ม มาช่วยสนับสนุนการศึกษา โดยเปิดให้เด็กและคนไทยทุกคน ทุกเครือข่าย (แบบไม่จำกัดค่าย) สามารถเข้าถึงคอนเทนต์การเรียน การสอนคุณภาพจาก StartDee ได้ผ่านแอพพลิเคชั่น AIS PLAY โดยจะเปิดให้บริการในอนาคต

2.สนับสนุนเรื่องอินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษา โดยมอบสิทธิพิเศษ ฟรีดาต้า! เข้าถึงการเรียนการสอนบนแอพพ์ Startdee เป็นเวลา 3 เดือน (เริ่มตั้งแต่ 15 พ.ค. เป็นต้นไป) สำหรับผู้ที่ใช้ ZEED SIM จากเอไอเอส วัน-ทู-คอล! ทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ โดย AIS เปิดให้ลงทะเบียนรับซิมฟรี ผ่านทางแอพพ์ StartDee ด้วย ทั้งนี้ ZEED SIM เป็นเซ็กเมนต์ซิมสำหรับกลุ่มเด็กนักเรียนวัยรุ่น วัยทีน ใช้งานอยู่แล้ว ก็เป็นประโยชน์อย่างมากต่อเด็กนักเรียน สามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนการสอนในทุกวิชา ทุกระดับชั้นจาก StartDee App ได้อย่างไม่จำกัด ใช้ฟรี ไม่เสียค่าดาต้า

3.AIS และ Startdee จะร่วมพัฒนาคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับดิจิทัล นวัตกรรม และเทคโนโลยี โดยบุคลากรของเอไอเอสที่มีความรู้และประสบการณ์ในด้านดิจิทัลและเครือข่าย จะเข้ามาร่วมสร้างสรรค์เนื้อหาความรู้ด้วยกัน

4.AIS และ StartDee มีแผนความร่วมมือระยะยาวร่วมกันในเชิง Innovation Partnership โดยร่วมพัฒนาในส่วน Infrastructure เช่น การนำ Big Data มาวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน และนำไปพัฒนาการเรียนการสอนให้ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของเด็กมากขึ้น รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถชำระค่าบริการแอพพ์ StartDee ผ่านทางบิลเอไอเอส”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image