เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ได้เชิญนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการสอบสวนวินัยและละเมิด มารายงานความคืบหน้ากรณีอดีตผู้บริหาร สกสค.นำเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ของกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) 2,500 ล้านบาท ไปซื้อ “ตั๋วสัญญา” กับ บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ถึงขั้นตอนการดำเนินงาน รวมถึง ชี้แจงสาเหตุว่าทำไมการสอบสวนถึงล่าช้า เพราะพบความไม่ปกติในการสอบสวน เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินการต่างๆ โดยกรณีบริษัทบิลเลี่ยนฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 6 ราย ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2558 และทั้ง 6 ราย ได้ยื่นอุทธรณ์วันที่ 12 มกราคม 2559 ว่าคำสั่งไม่ชอบ ตามหลักการแล้วการยื่นอุทธรณ์ไม่น่าจะใช้เวลานาน จากนั้นต้องส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการอุทธรณ์ ซึ่งทำให้การสอบสวนล่าช้าไปอีกหลายเดือน ที่สำคัญสรุปว่าคณะกรรมการอุทธรณ์มีมติยกเลิกคำสั่งสอบวินัยข้าราชการทั้ง 6 ราย ด้วยเหตุผลว่าในคำสั่งไม่ได้ระบุข้อหาที่ชัดเจน จึงให้ไปดูผู้ที่ออกคำสั่งสอบวินัย ทำไมถึงออกคำสั่งที่ไม่ระบุข้อกล่าวหาให้ชัด โดยให้นายพินิจศักดิ์ไปหาคำตอบว่ากระบวนการล่าช้าที่ใคร ใครรับผิดชอบ เมื่อผู้ถูกกล่าวหารับทราบคำสั่ง แล้วใช้เวลาอุทธรณ์ 2 เดือนกว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือต้องการรอให้เกษียณหรือเปล่า โดยให้ไปดูช่องทางด้วยว่าจะทำอย่างไรได้บ้างระหว่างสอบ และกลับมารายงานภายในวันที่ 29 กรกฎาคม
“นายพินิจศักดิ์ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ต้องถูกประเมินว่าทำไมถึงปล่อยให้กระบวนการสอบสวนล่าช้า รวมถึง จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้ใหม่ เนื่องจากนายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.ที่เป็นประธาน จะเกษียณอายุ โดยอาจให้คนนอกมาเป็นประธานสอบเรื่องดังกล่าวแทน ส่วนการดำเนินการตามคดีอาญากับบริษัทบิลเลี่ยนฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว
