รองนายกสมาคมโรงสีฯวอน ‘บิ๊กตู่’ ส่งมือดีแก้ปัญหาหลัง ‘โรงสีข้าว’ ปิดตัวหลายจังหวัดทั่วปท.

เมื่อวันที่ 18 กันยายน  นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล รองนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ขณะนี้โรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร เริ่มปิดตัว เนื่องจากตั้งแต่ปลายปี 2557 ราคาข้าวได้ปรับลงมากกว่า 25 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สต๊อกที่มีอยู่กับสถาบันการเงินนั้นขาดทุนโรงละ 50 ถึง 70 ล้านบาท บางแห่งขาดทุนร้อยล้าน ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาราคาข้าวไม่ได้ปรับสูงขึ้น การแข่งขันในเชิงการค้าข้าวที่เกี่ยวสด ก็เป็นการแข่งขันราคาซื้อเพื่อมาทดแทนสต๊อกที่ขาดทุนอยู่ เพื่อหวังจะได้คืนทุนหรือว่าขาดทุนน้อยลง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จอีก

“นอกจากโรงสีพิจิตรจะปิดตัวลงไปแล้วในโรงสีจังหวัดอื่นๆ ของภาคเหนือ เช่น จังหวัดพิษณุโลก ก็ปิดไปหลายโรงเกือบจะเรียกได้ว่าเหลือแทบจะไม่เกินครึ่ง จังหวัดสุโขทัย ปัจจุบันที่เหลืออยู่จริงก็เพียง 2 โรงเท่านั้น จังหวัดกำแพงเพชรเองเราก็จะเห็นโดยทั่วไปว่าโรงสีริมถนนพหลโยธินก็ปิดไป ถ้าจะเลยไปถึงจังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย หรือจังหวัดอุตรดิตถ์ก็ไม่แตกต่างกันก็ปิดถึงระดับครึ่งหนึ่ง ส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ เดิมมีโรงสีหลายสิบโรงปัจจุบันก็เหลือที่สีข้าวได้จริงจัง 2-3โรงเท่านั้น ผมเป็นรองนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยที่ดูแล 17 จังหวัดภาคเหนือก็จะเห็นภาพกว้างเหล่านี้ เช่นเดียวกันในเขตภาคกลาง ภาคอีสานก็หยุดไปเกือบครึ่ง บางจังหวัดก็มากกว่าครึ่ง บางจังหวัดก็น้อยกว่าครึ่ง แต่ภาพรวมประเทศต้องให้นายกสมาคมเป็นผู้ตัดสินใจแจ้งตัวเลขที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญกำลังผลิต 120-130 ล้านต่อตันใน 1 ปีของโรงสีข้าวที่สามารถสีข้าวได้ปัจจุบัน พบว่าเหลือเพียงกำลังผลิตกว่า 60 ล้านตันเศษเท่านั้นที่จะสามารถดำเนินรองรับของการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จริงๆ” นายบรรจงกล่าว

นายบรรจงกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการโรงสีข้าวยุติบทบาทหรือลดบทบาท ผู้ที่เป็นแชมป์มาหลายสิบปีก็วางมือไปจากโครงการ และจะบอกว่าขาดสภาพคล่องขาดทุนบางคนพอมีทุนก็ยอมเลิกเพราะกลัวทุนหมด เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรวมเกือบจะทั่วประเทศ  ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องขอกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี อาจต้องส่งมือเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือระดับรากหญ้าลงมาตรวจดูว่าเหตุการณ์ที่ฟันเฟืองขนาดใหญ่ที่มีการรองรับและแบบที่ดีไซน์ให้กับประเทศไทยในหลายประเทศใช้คอปโก้เป็นตัวกลาง จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และใช้แบบฟิลิปปินส์ ต่างก็มีองค์กรกลาง แต่ประเทศไทยความพร้อมไม่ได้ออกแบบมาอย่างนั้นเพราะการจะให้คอปโก้ลงไปทำ ก็ต้องหมดมูลค่าการก่อสร้างอีกเป็นแสนล้านบาท ประเทศไทยรองรับการเปลี่ยนแปลงข้าวโดยมาให้โรงสีเป็นผู้รับข้าวสดทั้งหมด และดำเนินการตลาดการสีข้าว ปัจจุบันบางโรงที่ปรับตัวได้ หันมาเป็นผู้ส่งออกก็เป็นทางรอดที่พอไปได้และยังคงอยู่แต่ก็น่าเสียดายที่ครึ่งนึงที่หยุดไปแล้วกำลังจะหยุดต่อเปรียบเสมือนเลือดไหลไม่หยุดของธุรกิจโรงสีข้าว  หวังว่าต่อไปนี้คนที่จะนำเรื่องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องพูดความจริงที่ถูกต้อง ต้องได้ข้อมูลที่แท้จริง จึงจะทำให้ฟันเฟืองที่อยู่นี้อยู่คู่กันไปกับเกษตรกรชาวนา

นายบรรจงกล่าวอีกว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีได้รับรู้ข้อมูลและคนใกล้ตัวที่นำเรื่องเรียนนั้นต้องเรียนแต่ความจริงที่ถูกต้องและสิ่งใดที่จะทำให้เกิดการส่งเสริมสนับสนุนก็ควรจะได้รับการทบทวนตลอดจนเพิ่มความเข้มแข็งที่เหมาะสมให้กับอุตสาหกรรมการเกษตรต่อไป ผู้ประกอบการออกมายืนยันแข็งขันสถานภาพถึงความล้มเหลวของธุรกิจตนเองเป็นสิ่งสะท้อน ที่เกิดขึ้นธุรกิจข้าวภาครัฐเองควรวิเคราะห์ประเมินการให้ดี ก็จะต้องตั้ง เหตุรองรับเหตุการณ์ที่จะดำเนินการต่อไปอนาคตที่จะถึงปัญหาที่แท้จริงที่จะนำเรียนให้กับท่านนายก ประยุทธ์ให้ทราบความจริงเราจะบิดเบือนไปจากข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงนี้ไปได้อย่างไร เพราะมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image