ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กระบุว่า เป็นที่น่ายินดี ขณะนี้ทางสำนักอาหารและยา (ท่านเลขา และท่านอื่นๆ) จะพยายามให้เริ่มมีระบบและกระบวนการสำหรับผู้ป่วยและผู้ปลูกเพาะสกัด ซึ่งรวมรายบุคคล ด้วย
ทั้งนี้กระบวนการในการลงทะเบียนขออนุมัติทั้งผู้ป่วยและผู้ปลูก คามแผนของท่านเภสัชกรวรสุดา สำนักงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์ยาเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อความสะดวก จะรวมถึงการลงทะเบียนออนไลน์ และจะมีการจับคู่โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ปลูกกับสหกรณ์ ซึ่งท่านเลขาเห็นด้วยและอยู่ที่จะบริหารจัดการอย่างไรให้ได้ครบวงจรทั่วประเทศ
เป้าหมายก็คือยังคงให้เป็นไปตามกฏหมายแต่สามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้หมดจด โดยป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาส ขายกัญชาในเชิงพาณิชย์ว่ารักษาได้ทุกโรคและคนป่วยจะเสียโอกาส
ทั้งนี้เนื่องจากการรักษาที่ได้ประโยชน์สูงสุดต้องควบรวมการแพทย์แผนปัจจุบันและความรู้ประสบการณ์การใช้จากชมรมใต้ดิน
นอกจากนั้นถ้ามีระบบข้อมูลทั่วประเทศชัดเจนสามารถให้ความรู้ในเรื่องการเพาะปลูกและความสะอาดของพืชกัญชาที่ต้องไม่มีสารเคมีและสามารถตรวจสอบการปนเปื้อนสารเคมีและโลหะหนักได้
สำหรับการอบรมแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยอาจจะต้องมีการควบรวมด้วยการเข้าไปดูวิดีโอการสอนได้อย่างเป็นอิสระ และสามารถสอบออนไลน์ได้ทั่วประเทศ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณของผู้สั่งใช้ให้สามารถรับมือกับความต้องการของผู้ป่วยได้
ถ้ากระบวนการและขั้นตอนสำเร็จจะทำให้บัดดี้โมเดลของแพทย์และผู้รู้ใต้ดินทำงานได้เต็ม 100 โดยผู้สั่งใช้ผ่านทางแพทย์ปัจจุบัน และแผนไทย
อนึ่ง ที่ปรึกษาในการใช้ สำหรับแพทย์มือใหม่ จำเป็นต้องมีระบบออนคอลเพื่อให้คำแนะนำผู้ป่วยประเภทใดที่เหมาะสมในการใช้กัญชาทั้งลักษณะของตัวผู้ป่วย ตัวโรคและ/หรืออาการ และยาปัจจุบันที่ใช้ ว่าจะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ โดยผู้ป่วยต้องไม่เสียโอกาสในการรักษาจากแผนปัจจุบันและไม่เสียโอกาสที่จะเติมเต็มจากการใช้กัญชาร่วม
คนไทยทั่วประเทศน่าจะเริ่มมีความหวัง ทั้งแพทย์ผู้สั่งใช้ ชมรมใต้ดิน ผู้ป่วยและผู้ปลูกตามบ้านจะได้ไม่หวาดผวา (รวมหมอด้วย) และจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่สามารถทำเป็นระบบระเบียบได้เร็วภายในหนึ่งเดือนหรือสั้นกว่า
