ข้อเสนอ 3 ข้อจาก “เยาวชนปลดแอก” ไม่ว่า หยุดคุกคามประชาชน ไม่ว่า แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ไม่ว่ายุบสภามอบโอนอำนาจให้ประชาชน
ดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “ระเบิดเวลา”
เป็นระเบิดเวลาซึ่งเด่นชัดยิ่งว่าประเด็นว่าด้วย “หยุดคุกคามประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถปฏิบัติได้ทันที
ไม่จำเป็นต้อง “เตะถ่วง”
ตัวอย่างจากสถานการณ์หลังการชุมนุมบนถนนราชดำเนินเมื่อตอนค่ำวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมว่ารัฐบาลคิดอย่างไร
คำตอบเห็นได้จากที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่
แต่แล้วสถานการณ์คุกคามที่นครศรีธรรมราชก็ปรากฏ แต่แล้วสถานการณ์คุกคามที่แพร่ก็ปรากฏ แต่แล้วสถานการณ์คุกคามที่บุรีรัมย์ มหาสารคามก็ปรากฏ
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กระนั้น ข้อเสนอซึ่งมีความแหลมคมและจะยิ่งทวีความร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ คือ ข้อเสนออันเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
เพราะนี่คือ รัฐธรรมนูญ “เจ้าปัญหา”
เพราะนี่คือ รัฐธรรมนูญที่สร้างข้อกังขาตั้งแต่มีการคว่ำร่างของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เมื่อปี 2558 อันเป็นรากฐานแห่งบทสรุปที่ว่า “เขาอยากอยู่ยาว”
ยุทธศาสตร์อยู่ยาวของ คสช.จึงปรากฏผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทำหน้าที่และประสบกับการต่อต้านตั้งแต่ก่อนทำ “ประชามติ”
และยิ่งเห็นรูปธรรมเด่นชัดเมื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง
อย่าคิดว่าจะมีแต่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย เท่านั้นที่หงุดหงิด
แม้กระทั่ง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ก็หงุดหงิด ไม่พอใจ
ข้อเสนอของ “เยาวชนปลดแอก” ในเรื่องอันเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญจึงเป็นการทะลวงไปยังหัวใจอันเป็นแก่นแกนของปัญหาอย่างแท้จริง
เป็นการวาง “ระเบิด” อย่างเหมาะเจาะ
มีความพยายามจะเตะถ่วงและยื้อเวลาอย่างแน่นอน โดยผ่านคณะกรรมาธิการที่จัดทำขึ้นตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงต่อรัฐสภา
“เร่งด่วน” แค่ไหน เพียงใดสังคมรับรู้
ข้อเสนอของ “เยาวชนปลดแอก” จึงมิได้เป็นการเสนออย่างไร้รากฐานในทางความคิดและในทางการเมือง
ตรงกันข้าม โยนเข้าไป “กลางวง”
ขณะเดียวกัน ก็ได้รับการขานรับจากทุกการชุมนุมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รออย่างเดียวคือการประสานเสียงเข้าด้วยกันเท่านั้น
หากผ่านเดือนกรกฎาคมไป อุบัติการณ์แห่งแฟลชม็อบก็จะกลายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม เป็นปรากฏการณ์ทางการเมือง
ยิ่งเข้าเดือนสิงหาคม ยิ่งร้อนแรง
ความร้อนแรงจาก “เยาวชนปลดแอก” นั้นเองจะท้าทายต่อการเข้าร่วมของประชาชนในวงกว้างและจะส่งผลสะเทือนไปยังแต่ละพรรคการเมือง
ทุกปลายหอกจะพุ่งเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา