ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
---|---|
เผยแพร่ |
ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้หน่วยราชการในพระองค์ ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เพื่อพระราชทานความสุขให้กับประชาชน และเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 11 มีนาคม ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า โดยรายได้จากการจัดงานไม่หักค่าใช้จ่าย จะทรงนำไปใช้ในการพระราชกุศล บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยและเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ ภายใต้กิจกรรมในโครงการพระราชดำริ “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ” ต่อไป
ในหลวงทรงปลื้มพระราชหฤทัย
นับได้ว่าตลอด 32 วัน ของการจัดงาน ได้สร้างความสุขให้กับคนไทยที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก สมดังพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงจัดงานนี้เพื่อพระราชทานความสุขให้คนไทย
เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์กล่าวถึงภาพรวมของการจัดงาน ถือเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ของงานที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เพื่อสืบสานการจัดงานฤดูหนาวในสมัยรัชกาลที่ 5 ตลอดจนแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 อันเป็นการสะท้อนให้เห็นความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่มาเที่ยวชมงาน ทุกคนล้วนมีความสุข โดยเฉพาะเยาวชนรุ่นใหม่ที่ได้มาเรียนรู้ขนบธรรมเนียมวิถีไทยในอดีตผ่านการมาเที่ยวชมงาน
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรการจัดงานตลอด โดยทรงปลื้มพระราชหฤทัย ที่ทอดพระเนตรเห็นพสกนิกรของพระองค์มีความสุข และได้ซึมซาบวิถีไทยย้อนยุคในอดีตตั้งแต่สมัยในหลวงรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะเรื่องความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน” เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์กล่าว
สำหรับการจัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาวในครั้งต่อไปนั้น ขณะนี้กองอำนวยการร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาวกำลังประมวลผลว่าจะจัดขึ้นในเดือนใด แต่คงอยู่ในระหว่างช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี อันเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยพอดี
ปีติ..เฝ้าฯรับเสด็จอย่างใกล้ชิด
ในการจัดงานครั้งนี้ นอกจากประชาชนจะมีความสุขที่ได้มาร่วมงานแล้ว ยังปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น เมื่อได้เฝ้าฯรับเสด็จ “พระบรมวงศานุวงศ์” ที่เสด็จฯมาทรงร่วมชมงานอุ่นไอรักด้วย ไม่ว่าจะเป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ ทรงเยี่ยมชมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า ในการนี้ ทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดไทยในฉลองพระองค์ผ้าลูกไม้สีชมพู และฉลองพระองค์ผ้าซิ่นสีชมพูอมม่วง โดยมีประชาชนที่มาร่วมงานเฝ้าฯรับเสด็จจำนวนมาก พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเยี่ยมชมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ในการนี้ ทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดไทยย้อนยุค
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่ทรงพระสิริโฉมในชุดไทยย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นฉลองพระองค์ผ้าลูกไม้สีขาวและโจงกระเบนสีแดง เสด็จเป็นการส่วนพระองค์มาทรงเที่ยวชมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เช่นกัน
รวมทั้ง คุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้แต่งชุุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ในวันแรกด้วย
อุ่นไอรักฯ สร้างรอยยิ้ม
บรรยากาศภายในงานตลอด 32 วัน เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างจูงมือครอบครัว ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย มาร่วมงานจำนวนมากทุกวัน นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้าชมงานอีกด้วย โดยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการถ่ายภาพตั้งแต่ป้ายงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณทางเข้างาน รวมทั้งเรือสุพรรณหงส์จำลองที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางพระลานพระราชวังดุสิต รวมทั้งสวนดอกไม้นานาชนิดหลากสีสันเพื่อนำเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานยังให้ความสนใจเข้าชมนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพัฒนาประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้า การประปา ไปรสนีย์กรุงสยาม และธนาคารสยามกัมมาจล ธนาคารแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารจำลองสถาปัตยกรรมแบบโบราณในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ริมกำแพงสวนอัมพร รวมทั้งนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งจัดแสดงอยู่ริมกำแพงสนามเสือป่า โดยภายในจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ก่อนขึ้นครองราชย์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการทำขนมไทยแบบโบราณที่หาชมได้ยากของโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) และการแกะสลัก การทำเครื่องเงินของโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (ชาย) อีกด้วย ขณะที่ภายในสนามเสือป่า มีประชาชนให้ความสนใจเข้าหาซื้ออาหารไทยโบราณที่บริษัทต่างๆ นำมาเปิดร้าน รวมทั้งร้านค้าของพระบรมวงศานุวงศ์ จนแน่นขนัดไปทุกร้าน และในส่วนของร้านสอยกัลปพฤกษ์ ต้นโพธิ์เงิน-โพธิ์ทอง มีประชาชนให้ความสนใจร่วมสนุกเป็นจำนวนมาก โดยรายได้นำขึ้นทูลเกล้าฯโดยเสด็จพระราชกุศลต่อไป
นายภัทรพงศ์ วงศ์สุวัฒน์ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่เศรษฐกร 7 การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งใจมาเที่ยวชมงานนี้โดยเฉพาะ เพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นคนไทยที่เข้าชมงานพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุคมากมายเท่ากับงานนี้ แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของชาติไทย ถือเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ อีกทั้งยังได้รับความรู้จากนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงในงานแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และประเทศชาติมีความร่มเย็นเป็นสุขมาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ กองอำนวยการร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว (กอร.) ได้สรุปยอดรวมผู้มาร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว โดยวันที่ 10 มีนาคม 107,170 คน วันที่ 11 มีนาคม 115,979 คน ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 11 มีนาคม รวม 32 วัน จำนวน 1,261,509 คน
ปลุกกระแสชุดไทยฮิตอีกครั้ง
นอกจากได้ซึมซาบบรรยากาศย้อนยุคแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานต่างแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุคในสมัยต่างๆ โดยเฉพาะชุดไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 มาร่วมงาน ทุกคนภาคภูมิใจในชุดไทยที่ได้สวมใส่ ต่างจัดแน่นจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับ รองเท้า ถุงน่อง กระเป๋า และพร็อพต่างๆ
ซึ่งชุดไทยเหล่านี้ บางคนถึงกับสั่งตัดขึ้นมาเพื่อใช้ในงานนี้โดยเฉพาะ บางคนลงทุนซื้อหาเพื่อใส่มาร่วมงาน ซึ่งก่อนวันงานจะเปิดมีประชาชนไปซื้อหาชุดไทยที่พาหุรัดและบางลำพูจำนวนมาก หรือบางคนก็เช่าชุดไทยจากร้านเวดดิ้งและร้านให้เช่าต่างๆ ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 250 บาทขึ้นไป รวมทั้งมาเช่าใส่ชุดไทยภายในงาน โดยร้านจิตอาสา 904 ร้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีชุดไทยให้เช่าในราคา 250 บาท สามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากมาเข้าคิวเช่าชุดไทยโบราณทุกวัน
นางสาวชลรชา วรภรตรีเพชร อายุ 33 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว เดินทางมากับครอบครัวจาก จ.ราชบุรี กล่าวว่า ตั้งใจมาร่วมงานครั้งนี้ และมาเป็นครั้งแรก โดยชุดที่แต่งมาเป็นชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้สั่งตัดขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ รู้สึกมีความสุขมากที่ได้มาร่วมงาน เพราะนอกจากได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยแล้ว ยังได้อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งกำลังจะเลือนหายไปให้กลับฟื้นคืนมาอีก และอยากให้จัดงานแบบนี้อีกเป็นประจำทุกปี เพื่อให้คนไทยได้ร่วมแต่งกายชุดไทยและสืบสานอัตลักษณ์ไทยให้คงอยู่ไปอีกนานเท่านาน
นอกจากนี้ ตลอดการจัดงานได้มีบุลคลมีชื่อเสียงรวมแต่งชุดไทยย้อนยุคไปร่วมงานคับคั่ง อาทิ คณะองคมนตรี, คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา, มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ, ศุภชัย เจียรวนนท์, พิพัฒน์พงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา, เอมอร-อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา, จรินทร์ สุมานนท์, ศรีริต้า เจนเซ่น, ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์, คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ, มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์, แหวนแหวน-ปวริศา เพ็ญชาติ เป็นต้น
ทุกคนล้วนภาคภูมิใจที่ได้สวมใส่ชุดไทยอันงดงาม นับเป็นงานที่ปลุกกระแสความนิยมในการใส่ชุดไทยให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง
อุ่นไอรัก คลายความหนาว ความสุขของคนไทย
เครดิต ขอบคุณภาพบางส่วนจาก finale wedding magazine