| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน หน้า 23 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เมื่อเร็วๆ นี้ รายงานของสหประชาชาติระบุว่า กว่า 35% หรือกว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลกเคยถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ และสำหรับประเทศไทย ข้อมูลจากศูนย์พึ่งได้ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ามีผู้หญิงและเด็กในไทยที่ถูกทำร้ายถึงขั้นบาดเจ็บ ต้องเข้ารับการรักษาถึง 87 คนต่อวัน หรือในทุกชั่วโมงจะมีเด็กและสตรีที่ถูกกระทำความรุนแรงถึง 4 ราย โดยจากสถิติในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ได้รับความรุนแรงเป็นกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 40% แสดงให้เห็นว่าเด็กและผู้หญิงมีความเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงได้ตลอดเวลา
ด้วยเหตุนี้ เคทีซีจึงจับมือกับกองร้อยน้ำหวาน หรือกองร้อยปราบจลาจลหญิง สังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จัดกิจกรรม เคทีซีสอนน้องวัยใส ป้องกันภัย ป้องกันตัว ให้กับเหล่าเด็กหญิงบ้านราชวิถี ให้เหล่าน้องๆ วัยรุ่นหญิงได้มีความรู้เพื่อป้องกันภัยที่มาสู่ตนได้
พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย ผู้บังคับการ กองร้อยปราบจลาจลหญิงฯ เผยว่า ด้วยภารกิจของกองร้อยน้ำหวานที่ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นในเรื่องของผู้หญิงและเด็กเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีโอกาสได้ออกมาให้คำแนะนำตามสถานที่ต่างๆ บ้าง ซึ่งในแต่ละครั้งนอกจากจะนำเอาท่าการป้องกันตัวต่างๆ ไปสอนให้เขาประยุกต์ใช้แล้ว สิ่งหนึ่งคือเราอยากสอดแทรกให้เขาได้รู้จักเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ในสังคมว่าเขาอาจเจอภัยเหล่านี้ได้ เพราะการจะเรียนป้องกันตัวจริงๆ ต้องใช้เวลาฝึกนานกว่า 6 เดือน ซึ่งเราจะแนะนำทุกคนเสมอว่าให้ดูสถานการณ์ ใช่ว่าต้องสู้ทุกครั้ง หากคนร้ายหวังในทรัพย์สินก็ควรให้เพื่อรักษาชีวิต พร้อมยังย้ำเสมอว่าให้เด็กๆ รู้จักระวังตัว ไม่ไปที่เปลี่ยว ไม่แต่งตัวล่อแหลม ไม่ควรเล่นโทรศัพท์หรือโชว์ทรัพย์สิน เพราะอะไรที่เปลี่ยนเป็นเงินได้คนร้ายย่อมต้องการทั้งนั้น
สำหรับท่าป้องกันตัวง่ายๆ สำหรับผู้หญิงที่อาจต้องพบเจอบ่อยๆ ในชีวิตจริงนั้น ซึ่งกองร้อยน้ำหวานได้นำมาสอน ได้แก่ 1.คนร้ายมาทางด้านหน้าเข้ามาจับมือคนละข้าง ให้เราชูแขนข้างที่ถูกจับไปด้านบนเพื่อให้แขนบังระดับสายตาผู้ร้าย จากนั้นหักข้อมือ ใช้ขาหักข้อเข่าเขา ผลักเขาลง ก่อนจะรีบหนีให้เร็วที่สุด 2.เมื่อคนร้ายเข้ามากระชากแขนทั้งสองข้างจากด้านหน้า เราไม่ควรดิ้นเพราะจะทำให้คนร้ายรัดแน่นขึ้น แต่ให้ยกแขนเราไปทางด้านข้าง ก่อนจะหักข้อมือเขาลง ใช้เข่ากระแทก และวิ่งหนีไป
3.หากถูกจี้จากด้านหลัง ควรยกมือยอมแพ้ ให้เรามองก่อนว่าคนร้ายใช้มือข้างใด พร้อมพูดคุยเกลี้ยมกล่อมเบี่ยงความสนใจ ก่อนจะหมุนตัวด้านมือที่ถืออาวุธ จับข้อมือคนร้ายไว้ กดศอกลงให้คนร้ายเสียหลัก ปลดอาวุธและรีบหนีไป และท่าสุดท้ายคือเมื่อคนร้ายเข้ามากดเราล้มลงหมายจะข่มขืน เมื่อคนร้ายเอามือมาบีบคอ ให้เราดันแขนจากข้างในออกข้างนอก จากนั้นเอาเข่ากระแทกคนร้ายจากด้านข้าง แล้วรีบหนี และต้องไม่ดิ้นแต่ให้เบี่ยงเบนความสนใจแทน ซึ่งเมื่อเรียนรู้แล้วควรหมั่นฝึกฝนเพื่อที่ในชีวิตจริงเมื่อเจอเหตุการณ์จะได้หยิบมาใช้ทันท่วงที
และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เหล่ากองร้อยน้ำหวานฝากไว้คือต้องมีสติ ทุกครั้งนั่นเอง
พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย
กองร้อยน้ำหวาน
สอนการป้องกันตัวให้เด็กๆ
