พสกนิกรฝ่าสายฝนเข้าสักการะพระบรมศพ ขอตั้งปณิธานทำดีตามรอยเบื้องพระยุคลบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาพอากาศตลอดทั้งวันจะไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากมีฝนตกอย่างหนักเป็นระยะๆ

นางสาวพเยาว์ ทองเติม อายุ 57 ปี ชาวอ.สามพราน จ.นครปฐม ที่เดินทางมากับเพื่อนสนิท เปิดเผยว่า การเดินทางมาการสักการะพระบรมศพในวันนี้ แม้ว่าจะมีฝนตกอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้สึกลำบากแต่อย่างใด เนื่องจากมีความรู้สึกรักและเทิดทูนพระองค์เป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงงานอย่างหนัก ทรงมีพระจริยวัตรงดงาม ทรงเสียสละพระวรกาย เสด็จฯไปเยือนถิ่นทุรกันดาร พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมาย เพื่อพัฒนาให้ราษฎรมีความอยู่ดีกินดีตราบจนทุกวันนี้ คงไม่มีพระมหากษัตริย์ใดในโลกจะทรงงานหนักเท่าพระองค์อีกแล้ว ซึ่งตนรู้สึกว่าการได้มาสักการะพระบรมศพในแต่ละครั้ง ก็เปรียบเสมือนเป็นการทดแทนพระคุณ และยังได้เป็นการใกล้ชิดพระองค์ ตนจึงตั้งใจจะเดินทางมากราบสักการะพระองค์ให้ครบ 40 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 19 แล้ว

นางสาวกันยารัตน์ เชาว์บัณฑิตย์ อายุ 58 ปี ชาวอ.สามพราน จ.นครปฐม กล่าวว่า แม้ว่าตลอดทั้งชีวิตจะไม่ได้มีโอกาสรับเสด็จพระองค์อย่างใกล้ชิดเลย แต่การได้เข้ากราบสักการะก็เปรียบเสมือนการได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์อย่างใกล้ชิดแล้ว ทำให้ในแต่ละครั้งที่เข้ากราบสักการะรู้สึกขนลุก และตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ทุกครั้งจะตั้งจิตอธิฐานขอให้พระองค์สู่สวรรคาลัย และตั้งจิตขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป

พเยาว์ – กันยารัตน

ขณะที่นางสาวสุวิมล เสนาภักดิ์ อายุ 26 ปี เจ้าพนักงานสาธารณสุข ต.ภูเงิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ร่วมกับคณะองค์การบริหารส่วนตำบลภูเงิน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และประชาชน จำนวน 93 คน ด้วยรถโดยสาร จำนวน 2 คัน กล่าวว่าเดินทางมาจากจ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม และมาถึงท้องสนามหลวง เวลา 8.00 น. ของงวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งแม้ว่าจะเดินทางมาไกล แต่ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะมีความต้องการมากราบสักการะพระบรมศพด้วยศัทธาที่แรงกล้า เนื่องจากคงมีโอกาสไม่บ่อยนักที่จะได้มา ด้วยความที่อยู่ไกล และต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นหมออนามัยแทบทุกวัน เวลาว่างจึงน้อยมาก การได้มาครั้งนี้จึงทำให้ตนตั้งปณิธานไว้ว่า จะขอทำดี และขอปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถเพื่อเดินตามแนวทางของพระองค์

Advertisement

น.ส.มณีรัตน์ แก้วพวง อายุ 30 ปี เจ้าพนักงานสาธารณสุข กล่าวว่า ในการดำเนินชีวิต ได้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์เป็นหลัก โดยพยายามปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์ คือ 2 ห่วง 3 เงื่อนไง คือ อดออมไม่ตึงจนเกินไป ไม่หย่อนจนไป มีสติในการใช้จ่าย ภายใต้หลักการของการมีความรู้ทางการเงิน และมีภูมิคุ้มกันในเรื่องของเงินออม เพื่อเป็นหลักประกันของชีวิต หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน

สุวิมล – มณีรัตน์
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image