“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ บุกเชือดชนะ “กังหันสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ 1-0 ในเกมฟุตบอลอุ่นเครื่อง ที่สนามอัมสเตอร์ดัม อารีน่า เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยได้ประตูชัยจากเจสซี่ ลินการ์ด ในนาที่ 59 ซัดบอลพุ่งเลียดเสียบเสาไปอย่างสวยงาม ทำให้อังกฤษภายใต้การคุมทีมของแกเร็ธ เซาธ์เกต บุกชนะ เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมนัดแรกของโรนัลด์ คูมัน
ขณะที่ “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล ดีกรีแชมป์โลก 5 สมัย ที่ไร้ซุปเปอร์สตาร์ดังอย่างเนย์มาร์ สามารถบุกไปคว้าชัยเหนือ “หมีขาว” รัสเซีย เจ้าภาพศึกฟุตบอลโลก 2018 แบบขาดลอย 3-0 ที่สนามโอลิมปิสกี้ สตาดิโอน ลุซนิกิ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยบราซิลดาหน้าพังประตูได้จากมิรันด้า นาทีที่ 53, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ยิงจุดโทษนาทีที่ 61 และปิดท้ายจากเปาลินโญ่ นาทีที่ 66
“ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ได้สตาร์ดังอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สวมบทฮีโร่ซัด 2 ประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แซงเอาชนะ “มัมมี่” ทีมชาติอียิปต์ 2-1 ที่สนามกลาง สตาดิโอน เลตซีกรุนด์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดให้อียิปต์นำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 56 แต่โรนัลโด้แผลงฤทธิ์โขก 2 ตุงรวดในช่วงทดเจ็บ พร้อมกับฉลองชัยชนะเกมที่ 900 ในชีวิตการค้าแข้งของกัปตันทัพฝอยทองด้วย
“อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมัน แชมป์โลกทีมล่าสุด เปิดรังเอสปรีต์ อารีน่า เร่งเครื่องไล่ตีเสมอ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน 1-1 โดยเกมนี้ โรดริโก้ยิงให้สเปนนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 6 แต่นาทีที่ 35 โธมัส มุลเลอร์ ซัดช่วยทัพอินทรีเหล็กตีเจ๊าได้สำเร็จ
“ฟ้า-ขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ไร้ซุปเปอร์สตาร์ดัง ลิโอเนล เมสซี่ แต่ยังโชว์ฟอร์มแกร่งเอาชนะ “อัซซูรี่” ทีมชาติอิตาลี เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 4 สมัย 2-0 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศ อังกฤษ โดยทัพฟ้า-ขาวได้ประตูจากอีเวอร์ บาเนก้า นาทีที่ 75 และมานูเอล ลานซินี่ นาทีที่ 85
“ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส พลาดท่าเปิดรังสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ พ่ายให้กับทีมชาติโคลอมเบีย 2-3 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสนำก่อน 2-0 จากโอลิวิเยร์ ชิรูด์ นาทีที่ 11 และโธมัส เลอมาร์ นาทีที่ 26 แต่โคลอมเบียรัว 3 ประตูรวดแซงจากหลุยส์ มูเรียล นาทีที่ 28, ราดาเมล ฟัลเกา นาทีที่ 62 และฆวน ควินเทโร่ ซัดชัยในนาทีที่ 85
ด้านผลคู่อื่น สิงคโปร์ ชนะ มัลดีฟส์ 3-2, อุรุกวัย ชนะ เช็ก 2-0, มาลี เสมอ ญี่ปุ่น 1-1, อาเซอร์ไบจาน แพ้ เบลารุส 0-1, ไซปรัส เสมอ มอนเตเนโกร 0-0, มาซิโดเนีย เสมอ ฟินแลนด์ 0-0, เซเนกัล เสมอ อุซเบกิสถาน 1-1, นอร์เวย์ ชนะ ออสเตรเลีย 4-1, บัลแกเรีย แพ้ บอสเนีย 0-1, ตุรกี ชนะ ไอร์แลนด์ 1-0, กรีซ แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1, ฮังการี แพ้ คาซัคสถาน 2-3, ตูนิเซีย ชนะ อิหร่าน 1-0, ยูเครน เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 1-1, เซอร์เบีย แพ้ โมร็อกโก 1-2, ออสเตรีย ชนะ สโลวีเนีย 3-0, โปแลนด์ แพ้ ไนจีเรีย 0-1, สกอตแลนด์ แพ้ คอสตาริกา 0-1, เปรู ชนะ โครเอเชีย 2-0, เม็กซิโก ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-0
